🥀
17:04
"จิน นั่นมันไอ้เวรริวเครื่องกลไม่ใช่เหรอวะ" เสียงเอ่ยถามจาก ลูค เพื่อนสนิทเรียกให้คนที่กำลังก้มผูกเชือกรองเท้าฟุตบอลเงยหน้าขึ้นแล้วปรายตามองไปยังทิศที่คู่สนทนากำลังวางสายตาไว้ ใบหน้าคมเข้มขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยพร้อมปากอิ่มที่ส่งเสียงสบถคำหยาบคายออกมาเบาๆ
"กูไปคุยกับไอ้พี่ทัพแปปว่ามันเรื่องเหี้ยอะไรกันถึงชวนไอ้พวกนั้นมาลงสนามด้วย" ฮาน ว่าก่อนจะสาวเท้ายาวๆไปยังแสตนที่มีกลุ่มของหัวหน้าสโมสรฟุตบอลนี้กำลังยืนคุยกันอยู่
"มึงโอเคมั้ยวะ" ลูคเอ่ยถามอีกครั้งเมื่อสังเกตเห็นสีหน้าไม่สบอารมณ์เล็กๆ ของเจ้าของเรือนผมสีชมพูสดใส มันใช่ที่จินเป็นคนมีเหตุผลมากพอ แต่ก็คงไม่ใช่กับการที่ต้องมาแข่งกับกลุ่มคู่อริที่เคยมีเรื่องกันมาก่อน แถมอีกฝ่ายยังคงคอยวนเวียนหาเรื่องอยู่ทุกครั้งที่เจอหน้า
"ก็ถ้ามันไม่ทำตัวหิวตีนกูก็ไม่อะไร" เสียงทุ้มตอบก่อนจะเบนความสนใจกลับมายังพื้นหญ้าที่กำลังยืนเหยียบอีกครั้ง ขายาวเริ่มยกย่ำไปมาเพื่อวอร์มร่างกาย
"พี่ทัพมันบอกว่าคนขาดเลยต้องดึงคนนอกมาเล่น ไอ้พวกนั้นมีคนแนะนำมาอีกที พี่มันไม่รู้จริงๆ ว่าเป็นอริเรา" ฮานวิ่งกลับมาพร้อมเอ่ยบอกในสิ่งที่ได้รู้มา จินพยักหน้ารับ ตาคมเหลือบมองไปยังฝั่งตรงข้ามอีกครั้ง และมันเป็นจังหวะเดียวกับที่อีกฝ่ายมองมายังเขาเช่นกันพอดี ใบหน้ากวนส้นตีนในความคิดแสยะยิ้มน่าถีบส่งมาให้พร้อมปากที่เขารู้ว่าหมานั่นกำลังขยับไร้เสียงว่า ไงจินณภพ
เอาล่ะ ภาวนาให้วันนี้เขาได้ออกแรงเตะบอลอย่างที่ตั้งใจมาเหมือนตอนแรกอย่างเดียวก็แล้วกัน
เสียงเป่านกหวีดดังขึ้นจากด้านข้างเป็นสัญญาณให้ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายลงสนามและทักทายกันก่อนเกมส์เริ่ม
จินหลุบตามองมือของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นศัตรูชนิดเคยต่อยกันคณะพังที่ยื่นมาตรงหน้า และเส้นประสาทตรงขมับข้างขวาก็กระตุกเล็กน้อยเมื่อพบว่าใบหน้าของเจ้าของมือนั่นกำลังปรากฎรอยยิ้มยียวนที่ดูออกว่ากำลังจงใจกวนตีนเขาอยู่
"อะไรกันเนี่ยจินภาคไฟ แค่จับมือทักทายยังไม่กล้ารึไงครับ"
นั่นไงมันเริ่มแล้ว
จมูกโด่งพ่นลมหายใจออกยาวๆ เพื่อสะกดกลั้นอารมณ์ขุ่นมัวที่ไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ ภายในใจ ก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาจะส่งยิ้มพร้อมเอ่ยประโยคที่ทำเอาอีกฝ่ายคิ้วกระตุกกลับไปบ้างเช่นกัน
"ไม่ใช่ไม่กล้าแต่แค่กำลังคิดว่าหลังจับแล้วขี้เกียจจะเดินออกไปล้างมือก่อนก็เท่านั้นเองว่ะ"
"สัส ปากดีนักนะมึง"
"มึงก็น่าจะรู้ว่ากูไม่ได้ดีแค่ปาก"
มือที่เคยยื่นมาข้างหน้าลดลงแนบลำตัวพร้อมแรงกำแน่นที่เพิ่มขึ้นตามอารมณ์เจ้าของเมื่อตอนนี้กลับกลายเป็นว่าคนที่เริ่มต้นยั่วอารมณ์ก่อนกลายเป็นคนที่โดนย้อนกลับจนเริ่มเก็บสีหน้าไม่อยู่ และจินรู้ดีว่าตอนนี้คงใกล้ระเบิดเต็มทน
ช่วยไม่ได้หรอกนะ แต่มั่นใจว่าคงไม่มีใครกวนตีนคนได้เก่งเท่าเขาหรอกพนันได้เลย
"ประจำตำแหน่งกันได้แล้ว" เสียงประกาศเรียกจากกรรมการข้างสนามเรียกให้ทั้งสองฝ่ายละความสนใจจากการจ้องหน้ากัน จินก้าวถอยหลังออกมาพร้อมหมุนตัวเพื่อจะเดินออกจากตรงนั้น
"แน่จริงมาวัดกันตัวๆ ดูมั้ยล่ะว่ามันจะจริงมั้ยที่ว่ามึงไม่ได้มีดีแค่ปาก" เสียงตะโกนจากคนที่ความอดทนไม่มากพอดังขึ้น พร้อมพรรคพวกของริวที่เริ่มก้าวออกมาอย่างจงใจหาเรื่อง
"มึงจะเอาอีกใช่มั้ยไอ้พวกเวร" ลูคตวาดสวนกลับไปพร้อมๆ กันกับฮานที่โยนลูกฟุตบอลในมือทิ้งอย่างไม่ไยดีในขณะที่จินยังคงนิ่ง และทำให้ฝ่ายที่เริ่มก่อนได้ใจ
"กระจอกฉิบหาย สุดท้ายก็ให้เพื่อนออกหน้าแทน"
"แล้วมึงเสือกอะไรถ้าพวกกูจะออกหน้าแทนจินมัน"
"ก็ไม่อะไร แต่แค่สงสัยว่าแฝดที่เหลืออีกสามคนจะกระจอกแบบนี้ด้วยมั้ย หรือจริงๆแล้ว..." เสียงยียวนเว้นวรรคเป็นจังหวะเดียวกับที่จินหมุนตัวหันกลับไปเผชิญหน้าเพื่อฟังสิ่งที่กำลังจะออกมาต่อจากนี้
"...แม่งกระจอกทั้งครอบครัว 55555555555555555 กากว่ะแฝดสี่ พวกมึงว่ามั้ย" เสียงหัวเราะราวกับขำขันนักหนาดังลั่นสนามเมื่อเพื่อนที่เหลือของริวต่างพยักหน้าเออออให้กันไปด้วย
"ฮาน กูว่ามีคนไม่ตายดีแน่ๆ แล้ว" จบประโยคนั้นของลูคร่างสูงที่เคยยืนหันซ้ายหันขวาหัวเราะร่ากับเพื่อนก็ร่วงลงไปกองพื้นในทันทีเมื่อโดนขายาวถีบเข้าที่กลางอกอย่างจัง และไม่ทันที่จะได้ตั้งตัวหมัดลุ่นๆก็ตามมากระแทกเข้าที่ใบหน้าด้านขวาซ้ำอย่างรวดเร็ว ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อมีคนเปิดก็ต้องมีคนตาม ทั้งสองฝั่งกรูเข้าหาพร้อมปล่อยหมัดใส่กันไม่ต่างจากคู่แรกที่นัวเนียซัดกันอยู่บนพื้นหญ้าเทียม
"หยุดโว้ย หยุด!! กูให้เตะบอลไม่ใช่มาเตะกัน!!!" กรรมการข้างสนามที่ปรี่เข้ามาห้ามโดนลูกหลงจากแข้งใครสักคนเหวี่ยงเข้าที่บั้นเอวไปเต็มๆ หนึ่งดอก
กว่าสิบนาทีที่มีการตะลุมบอนเกิดขึ้น เหล่ารุ่นพี่จึงจะสามารถแยกสองฝั่งที่อัดกันสนามพังออกจากกันได้
จินสะบัดตัวออกจากการเกาะกุมของใครสักคนพร้อมยกมือขึ้นชี้ใบหน้ายับเยินจากฝีมือตัวเอง น้ำเสียงเกรี้ยวกราดบ่งบอกถึงหลอดอารมณ์ที่กำลังเดือดได้ที่
"แม่มึงไม่เคยสอนใช่มั้ยว่าเวลาจะปากดีกับใครอย่างน้อยก็ควรให้ถูกเรื่องหน่อย"
"...." ไร้เสียงตอบกลับจากริวที่ทุกสายตาเห็นพ้องต้องกันเป็นอย่างดีว่าสภาพเละกว่าจินมาก มากจนถึงกับต้องให้เพื่อนช่วยพยุงถึงจะสามารถทรงตัวอยู่ได้
แต่แล้วก่อนที่จะมีใครได้เอ่ยอะไรต่อ มาเซราติคันงามที่จอดเทียบหน้าประตูสนามก็ดึงความสนใจจากสายตาทุกคู่ไป ประตูฝั่งตรงข้ามคนขับเปิดออกพร้อมร่างสูงเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลสว่างที่ก้าวลงมาเป็นคนแรก ใบหน้าหล่อเหลาที่ถอดแบบมาจากจินราวกับแกะเรียบนิ่ง สายตาคมตวัดมองมายังน้องชายคนที่สามที่ยืนอยู่ท่ามกลางเพื่อนๆ และคู่อริ ขายาวสาวเท้าเร็วๆ เข้ามา จินยกหลังมือปาดคราบเลือดที่มุมปากก่อนจะเดินไปหาแฝดของตัวเองที่ไม่รู้ว่าใครหน้าไหนส่งข่าวให้ถึงหอบกันมาไวขนาดนี้
“หน้ามึง..” น้องเล็กสุดท้องอย่างรัมที่เพิ่งตามมาถึงจับใบหน้าของพี่ชายหันไปมาราวกับกำลังสำรวจและตรวจนับร่องรอยที่มีบนนั้น ตามมาด้วยไวน์ที่เพิ่งจอดรถเสร็จและเดินมาถึง มือขาวของแฝดสองยกขึ้นลูบรอยช้ำที่เริ่มชัดเจนข้างแก้มน้องชายเบาๆ พร้อมตวัดสายตาไล่มองทุกคนในบริเวณนั้นราวกับกำลังค้นหาตัวต้นเหตุที่ทำให้จินเจ็บ
“ใครทำน้องกู!” และเป็นเสียงทุ้มของเบียร์ที่ตวาดดังลั่นจนทุกคนที่ได้ฟังต่างหน้าถอดสีให้กับความโกรธที่เจือมาอย่างเต็มเปี่ยมในคำถามนั้น
“เฮียใจเย็นก่อน” จินคว้าแขนพี่ชายคนโตในตอนที่อีกคนทำท่าจะพุ่งตัวเข้าไปหาคนที่คงจับสังเกตได้แล้วว่ามันคือตัวการ
“หน้ามึงเละขนาดนี้ยังให้กูเย็นเหี้ยไรได้อีก”
"มึงดูดีๆก่อนว่าระหว่างกูกับมัน ใครกันที่เละกว่า" จินว่าพลางยักคิ้วเล็กๆ ให้พี่ชาย มาดร้ายๆของคนที่เคยกระทืบคนจมเท้าหายไปทันทีที่อยู่ใกล้แฝดของตัวเอง
"ผมขอนะครับ อย่ามีเรื่องกันอีกเลย" หัวหน้าสโมสรอย่างทัพรีบเข้ามาเจรจาเมื่อเห็นว่าพี่น้องของจินดูจะไม่ยอมง่ายๆ แน่
"นะเฮีย"
เบียร์ผ่อนลมหายใจคล้ายกำลังอดทนอย่างสุดความสามารถเมื่อเห็นท่าทีของน้องชายที่ไม่ต้องการให้เรื่องมันใหญ่ไปมากกว่านี้
และใช่ ถ้าจินไม่ขอร้อง เรื่องมันจะใหญ่กว่านี้แน่เขารับประกันได้เลย
"เพราะกูเป็นพี่ที่เลี้ยงมันมากูถึงมั่นใจว่าจินไม่ใช่คนที่หาเรื่องใครก่อนแน่ๆ ดังนั้นพวกมึงฟังแล้วจำไว้ให้ขึ้นใจ" นิ้วเรียวกราดชี้หน้าคู่อริของน้องชายเรียงคน เสียงทุ้มเข้มเอ่ยชัดถ้อยถัดคำราวกับต้องการให้มันสลักลึกลงไปในสมองส่วนที่ทำหน้าที่เก็บความจำของคนที่ฟังอยู่
"ถ้ามีหมาตัวไหนเตะน้องกูอีกครั้ง รับรองได้เลยว่ามันจะไม่ตายดี" ประโยคสั้นๆ หากแต่คนที่ได้ฟังรับรู้ได้เป็นอย่างดีว่ามันไม่ใช่แค่คำขู่ และทุกคนก็ต่างรู้ว่าหากคิดจะลองดีกับแฝดสี่ของบ้านนี้แล้วล่ะก็
นั่นเป็นสิ่งที่พลาดที่สุดในชีวิตเลยทีเดียว
19:52
"เจ็บมากมั้ยวะ" รัมเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าพี่ชายคนที่สามลอบเบ้หน้าในตอนที่พี่ใหญ่อย่างเบียร์กำลังทำแผลให้หลังจากพากันกลับมาถึงบ้านแล้ว
"ไกลหัวใจว่ะอ้วน แผลแค่นี้ไม่ได้ทำให้ความหล่อเท่ที่กูมีลดลงไปได้หรอกนะ โอ้ยเฮีย! มึงอย่ากดแรงเซ่!!" ใบหน้าหล่อเหลาบิดเบี้ยวเมื่อโดนพี่ชายที่แปะพลาสเตอร์ยาให้ลงแรงกดที่แผลมากกว่าความจำเป็น
"ไหนบอกไกลหัวใจไงคะ"
"กูจะหล่อเท่ต่อหน้าเจ้าหญิงน้อยหน่อยไม่ได้เลยหรือไง" ปากอิ่มบ่นขมุบขมิบพร้อมใบหน้าหงิกงอ
"เจ้าหญิงที่ตีนกูนี่ไอ้ควาย"
"โอ้ยๆๆๆ มึงด่านี่เจ็บกว่าโดนต่อยอีกอ่ะ"
"แสดง"
"เอ้าอีหมู"
"กูต่อยซ้ำแม่งอีกสักที"
"ไวน์ช่วยกูด้วยยยยย" จินถลาตัวไปหาพี่ชายคนที่สองที่นิ่งเงียบมาตลอดทางจนถึงบ้าน แม้กระทั่งนั่งทำแผลก็ยังไม่เอ่ยปากสักเอะเดียว
"กูบอกเลยนะคะ เคลียร์กับกูยังง่ายกว่าเคลียร์กับไวน์มันมาก" เบียร์ว่าพลางเก็บอุปกรณ์ทำแผลลงกล่อง
"อย่าบิ้ว กูขอเลยว่าอย่ามาบิ้วกัน" ว่าแล้วกลุ่มผมสีชมพูยุ่งเหยิงที่ผ่านการฟัดกับคูอริมาก็ทิ้งลงซบบนตักของไวน์อย่างออดอ้อน
จินรู้ว่าพี่โกรธที่เขาเจ็บตัว
"วายยยยยยยย ไม่ใช่ว่ากูอยากมีเรื่องหรือไม่อดทนนะ กูทนแล้วแต่ไอ้หน้าหมานั่นมันจี้จุดกูอะ แต่กูก็ผิดนั่นแหละที่พุ่งเข้าไปหาแทนที่จะเดินออกมาแล้วไม่ให้ค่ามันไปซะ" เสียงทุ้มอ่อยลงเมื่อเห็นว่าพี่ชายยังคงเงียบใส่
"ไวน์คะมึงก็คุยกับมันหน่อย จะเบะแล้วนะเด็กสัสของมึง" เบียร์ว่าเมื่อเห็นสีหน้าหงอยจัดจนแทบจะร้องไห้ของน้องชายที่สร้างเรื่องมาในวันนี้
"มึงอย่าร้องนะโว้ยจิน"
ดวงตาคมของแฝดคนที่สองเหลือบมองหน้าน้องชายที่กำลังสลดจัดก่อนจะถอนหายใจหนักๆ ออกมา
"รู้ใช่มั้ยว่ากูไม่ชอบให้มึงเจ็บตัวไม่ว่าจะสาเหตุอะไรก็ตาม" เสียงทุ้มยังคงเรียบนิ่งแต่มืออุ่นที่เลื่อนลงลูบกลุ่มผมหนาก็ทำให้จินยิ้มออก
"ครับ ต่อไปกูจะใจเย็นให้มากกว่านี้"
"เออ"
"ว่าแต่ใครบอกพวกมึงอะถึงไปเร็วเบอร์นั้น" จินเอ่ยถามสิ่งที่สงสัย
"เพื่อนพระมันเตะอยู่สนามข้างๆ เห็นว่ามึงกับไอ้เวรนั่นมองหน้ากันแปลกๆ ตั้งแต่เข้าสนามเลยทักมาบอก"
"สายเยอะฉิบหายอะพี่กู"
"จริงๆ พวกกูก็ตั้งใจจะไปดูมึงอยู่แล้วด้วย" รัมว่าพร้อมเจาะนมช็อกโกแลตในมือที่เพิ่งไปหยิบมาแล้วยกขึ้นดูด
"เขินนะคะที่รักสามคนตั้งใจจะไปเชียร์กันงี้"
"เปล่า จะไปโห่ตอนมึงเตะวืดต่างหาก"
"อีสัสอ้วน!!!!" มือขาวถูกส่งไปดึงแก้มฟูๆที่กำลังขยับตามแรงดูดนมในกล่องพร้อมออกแรงยืดทันที
"โอ้ยยย กูเจ็บนะไอ้พี่เวร!!"
"จะดึงๆๆๆบีบๆๆๆให้ย้วยเลยยัยปากร้าย"
"ปล่อยกูนะโว้ยยยยยยยยยยยยยย"
"มูๆๆๆๆๆๆ555555555555555555555555555"
"มึงจะไม่ห้ามหน่อยเหรอคะไวน์" เบียร์เอ่ยถามเมื่อเห็นภาพน้องชายสองคนที่กำลังกอดรัดและผลัดกันบี้หน้าอีกฝ่ายอยู่บนพื้นล่างโซฟา
"ถ้ามึงอยากเป็นอีกคนที่โดนจินมันบี้หน้าก็เข้าไปห้ามเลยเฮีย"
"งั้นกูนั่งมองเฉยๆ กับมึงตรงนี้เหมือนเดิมดีกว่าค่ะ"
"เฮีย ไวน์ ขอจู้บๆทีดิ"
"ไม่ค่ะ/เข้ามากูเตะ"
"ใจร้าย พวกมึงมันพี่ใจดำ!!!"
"แล้วก็ปล่อยมือจากหน้ากูด้วยไอ้พี่เฮงซวย"
"จินณภพไม่ถูกใจสิ่งนี้!!!!!!!!!!!!"
#จินณภพ
Capture Chat Story
“มาเป็นคนแรกที่โดเนทให้กำลังใจนักเขียนกันเถอะ”
| โดเนทสูงสุดของเรื่อง #จินณภพ | Jaedo | ||||
|---|---|---|---|---|
![]() 1700.00 ![]() | ![]() 670.00 ![]() | ![]() 500.00 ![]() | ![]() 455.00 ![]() | |
| โดเนทสูงสุดของ ตอนย่อยนี้ | ||||
|---|---|---|---|---|
![]() 10.00 ![]() | ![]() 10.00 ![]() | ![]() 10.00 ![]() | ![]() 5.00 ![]() | |

#เจตนิภัทร | Jaedo

ใหม่ไปเก่า




































