canvas
Upload to Server | Delete from Server
html
โดย
Please me (markhyuck)
โดย : sugarpeeppy

🚫 WARNING 🚫

เรื่องนี้เราแต่งขึ้นมาเพื่อสนองความอยากของตัวเองเท่านั้น ไม่ได้อิงความเป็นจริงอะไรทั้งสิ้น อ่านเอาสนุกไม่ต้องคิดอะไรมากนะคะ

ขอบคุณค่ะ 💕

 

 

.

 

.

 

.

 

.

 

.

 

 

แฮชาน ลี สมาชิกของวง NCT DREAM กำลังได้รับความนิยมและเป็นที่รักมากๆ ของเหล่าบรรดาแฟนคลับ

 

ด้วยความสามารถที่ล้นเหลือของตัวเองบวกกับความขี้เล่นที่ดูน่ารักจนแฟนคลับต่างพากันเอ็นดู

 

แต่ทว่ามันดันเป็นอะไรที่ต่างกันลิบลับเลยเมื่อเทียบกับการได้รับความรักจากสมาชิกในวง

 

แน่นอนว่าอาจจะเพราะว่าแฮชานเป็นสมาชิกที่ดูจะซนไปสักหน่อย ไม่ได้น่ารักขี้ออดอ้อนเหมือนเฉินเล่อ หรืออ่อนน้อมเหมือนเจโน่ สมาชิกคนอื่นเลยไม่ได้ใส่ใจและสนใจเขามากนัก

 

แต่แน่นอนทุกคนปฏิบัติตัวและคอยดูแลตัวแฮชานอย่างดีในฐานะที่เขาเป็นหนึ่งในสมาชิกของวงเว้นเสียแต่ใครบางคนที่ไม่เคยคิดจะสนใจกันเลยสักนิดเดียว

 

เหตุผลอาจจะเพราะเขาเองก็เอาแต่เล่นไปวันๆ แต่นั่นมันก็เพราะเขาอยากได้รับความสนใจไม่ใช่หรอ

 

แล้วทำไมถึงได้กลับตาลปัดจนน่าใจหาย...

 

สงสัยใช่ไหมว่าเขาคนนั้นคือใคร

 

ก็ มาร์ค ลี พี่ใหญ่ของวงนั่นแหละ

 

"แฮชาน วันนี้พวกฉันจะออกไปหาอะไรกินกัน นายจะไปด้วยกันไหม"

 

เสียงของแจมินหนุ่มหล่อตัวสูงเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

 

ช่วงนี้แฮชานดูไม่ค่อยร่าเริงสักเท่าไหร่ บางครั้งก็ชอบนั่งเหม่อคิดนู่นนี่อยู่คนเดียวจนน่าเป็นห่วง แล้วพวกเขารู้สาเหตุดีว่าเพราะอะไรถึงเป็นแบบนี้

 

มันก็เพราะไอ้พี่มาร์คตัวดีนั่นล่ะ

 

"พวกนายไปเถอะ ฉันอยากอยู่หอมากกว่า"

 

เสียงตอบแหบพร่าเพราะอาการป่วยที่เป็นอยู่ตอนนี้ฟังดูน่าสงสารเหลือเกิน

 

มักเน่ของวงอย่างจีซองที่ยืนมองอยู่รู้สึกเจ็บหัวใจที่ได้เห็นว่าพี่ที่น่ารักของเขามีอาการน่าเป็นห่วงขนาดนี้

 

เขาเดินย้อนเข้ามาในตัวหอพักก่อนจะดึงร่างที่เล็กกว่าของแฮชานเข้ามากอดไว้โดยที่ไม่ได้พูดอะไร

 

ใครบอกกันล่ะว่าพวกเขาไม่รักแฮชาน พี่ชายคนนี้แค่ได้รู้จักเพียงเล็กน้อยก็ทำให้ทุกคนล้วนเอ็นดูกันถ้วนหน้าแล้ว

 

แฮชานน่ะเป็นทั้งพี่และเพื่อนที่ดีให้กับสมาชิกในวงได้เสมอเป็นคนที่คอยซัพพอร์ตและให้กำลังใจเขาในทุกเรื่อง

 

แฮชานทั้งพยายามทำให้บรรยากาศมันออกมาสนุกสนานในตอนที่ทุกคนเหนื่อยเพื่อสร้างความผ่อนคลายทั้งที่ตัวเองก็แทบจะไม่ไหวแล้ว

 

แบบนี้จะไม่ให้พวกเขารักได้ยังไง

 

จะมีก็แต่พี่ใหญ่ที่ชอบทำท่าทีเย็นชาใส่ คุยกันเฉพาะเวลามีความจำเป็นเพียงเท่านั้น

 

ก็ไม่รู้ว่าไปไม่ชอบอะไรพี่แฮชานนักหนา ทั้งที่พี่แฮชานแสดงออกจะตายว่ารักมากซะขนาดนั้น

 

"ไม่ไปกับพวกผมจริงๆ หรอพี่"

 

จีซองเอ่ยถามเบาๆ ก่อนจะลูบผมนุ่มสวยของพี่ตัวเล็ก แฮชานส่ายหน้าให้เป็นคำตอบทว่าเสียงสะอื้นเบาๆ กลับดังขึ้นมาให้ได้ยิน

 

แฮชานเป็นแบบนี้เสมอทุกครั้งที่มีอาการป่วยหรือไม่สบาย จากคนที่สดใสร่าเริงจะกลับกลายเป็นเปราะบางจนอยากทะนุถนอมเอาไว้ให้ดี

 

นี่ถ้าอยู่กับพี่ๆ หนึ่งสองเจ็ดพวกพี่เขาคงจะดูแลพี่แฮชานได้ดีกว่านี้

 

ความคิดที่ว่าจะออกไปหาอะไรกินกันด้านนอกแทบจะหายปลิวไปจากหัวของพวกเขา

 

พวกเขาไม่อยากปล่อยให้คนป่วยต้องอยู่คนเดียวเลยจริงๆ ตอนนี้แฮชานอ่อนแอเกินกว่าที่จะอยู่เพียงลำพังได้

 

"จะไปได้ยัง หิวแล้ว"

 

เสียงทุ้มของหัวหน้าวงดังขึ้นขัดความคิดของสมาชิกคนอื่นๆ

 

"พี่ไม่เห็นหรอว่าแฮชานอาการไม่ดีอะ"

 

เจโน่หันไปเอ็ดเข้าให้เสียทีหนึ่งด้วยความไม่พอใจ ทำเอาเจ้าตัวเงียบกริบไร้เสียงพูดใดๆ นอกเสียจากเสียงจิ๊ปาก

 

"เดี๋ยวผมอยู่กับพี่แฮชานเอง พวกพี่ไปกินกันเถอะ แล้วค่อยซื้ออะไรเข้ามาให้ทีหลังก็ได้"

 

หลังจากที่เฉินเล่ออาสาอยู่เป็นเพื่อนแฮชาน

 

ทุกคนพยักหน้ารับแล้วพากันเตรียมตัวออกไปข้างนอกอย่างที่ได้แพลนเอาไว้ตั้งแต่แรก

 

เมื่อสมาชิกคนอื่นๆ ออกไปแล้วแฮชานก็เดินไปทรุดตัวลงนั่งที่โซฟาก่อนจะปล่อยโฮออกมาโดยมีเฉินเล่อเดินเข้ามากอดปลอบด้วยความเห็นใจ

 

อันที่จริงมาร์คนั้นไม่ใช่คนร่าเริงใจดีเหมือนที่เห็นๆ กันในคราบไอดอลหากแต่จะออกไปทางนิ่งๆ ไม่สนใจใครมากกว่า เรื่องนี้ทุกคนในวงล้วนรู้ดี

 

ช่วงแรกที่รู้จักกันแฮชานเข้าใจว่าอาจจะเพราะต่างคนต่างก็มาจากที่อื่นเลยไม่คุ้นเคยแต่พอนานไปแฮชานก็ยิ่งได้รู้ว่ามาร์คตั้งใจที่จะไม่สนใจเขาตั้งแต่แรกแล้ว

 

พี่มาร์คใจร้ายที่สุด...

 

 

.

 

.

 

.

 

 

เสียงกุกกักดังขึ้นปลุกให้แฮชานตื่นขึ้นมาจากห้วงนิทรา มือเล็กยกขึ้นขยี้ตาของตัวเองก่อนจะหรี่ตามองหาเพื่อนร่วมห้องแต่กลับไม่เห็นว่านอนอยู่

 

หันไปสนใจต้นตอของเจ้าเสียงนั่นก็เห็นว่าพี่มาร์คกำลังเดินโงนเงนเข้ามาในห้อง

 

แฮชานเห็นท่าไม่ดีเลยรีบลุกขึ้นไปช่วยพยุงตัวมาร์คไปนอนที่เตียงของรูมเมทแทน

 

กลิ่นเหล้าลอยเข้ามาเตะจมูกจนแฮชานต้องหันหน้าหนีเพราะทนกลิ่นของมันไม่ไหว

 

ทำไมถึงได้ดื่มเยอะมากขนาดนี้นะ ตอนเช้าต้องรีบตื่นไปบริษัทแท้ๆ

 

"พี่มาร์คครับ เช็ดตัวหน่อยนะ"

 

"อือ"

 

ตอบแค่นั้นก่อนจะคว้าร่างเล็กๆ เข้ามากอดไว้ มาร์คคงไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังทำอะไร

 

แฮชานรู้ดีว่าพี่มาร์คคงจะดื่มจนเมามาก คงไม่รู้ตัวกับสิ่งที่ทำลงไป

 

ถ้าพี่เขามีสติคงไม่ทำอะไรแบบนี้...

 

"พี่มาร์ค..."

 

"เงียบ"

 

"....."

 

เสียงของมาร์คดังขึ้นเรียบๆ ทำให้แฮชานไม่กล้าจะพูดอะไรต่ออีกเลยนอกจากนอนเงียบให้มาร์คกอดตัวเองอยู่แบบนั้นจนเช้า

 

 

.

 

.

 

.

 

 

"แฮชาน ตื่นได้แล้ว"

 

คนถูกปลุกลืมตาขึ้นก่อนจะกระพริบถี่ๆ เพื่อปรับการโฟกัสของสายตาตัวเอง

 

แฮชานส่งยิ้มให้เพื่อนร่วมวงเมื่อเห็นว่าตื่นแล้วก่อนจะพากันออกมาด้านนอกในขณะที่แจมินจัดเตรียมอาหารเช้าไว้เรียบร้อยและทุกคนก็ออกมารอพร้อมหน้าพร้อมตา

 

สงสัยคงจะรอเขากันอยู่แน่ๆ เลย

 

"ขอโทษนะที่ทำให้รอ"

 

"ไปล้างหน้าล้างตาก่อนเถอะ"

 

เหรินจวิ้นเอ่ยยิ้มๆ ก่อนที่แฮชานจะขอตัวไปล้างหน้าแปรงฟันเสียก่อน ไม่นานเขาก็มานั่งร่วมโต๊ะและร่วมกันทานอาหารเช้า

 

"กินให้มันเยอะๆ หน่อย"

 

มาร์คพูดกับเจโน่ก่อนจะตักอาหารใส่จานเขา

 

แฮชานมองภาพตรงหน้าด้วยดวงตาแห่งความน้อยใจแล้วทำเพียงก้มหน้าทานข้าวเช้าต่อเงียบๆ

 

ใครจะไม่รู้ว่ามาร์คน่ะปฏิบัติกับเจโน่พิเศษขนาดไหน ก็ในเมื่อมาร์คชอบเจโน่ซะขนาดนั้นนี่นา

 

เจโน่มองแฮชานอย่างสงสารแต่เขาก็ไม่สามารถพูดปฏิเสธมาร์คได้เพราะรู้ว่ามาร์คเองไม่ได้ตั้งใจจะทำให้แฮชานเป็นแบบนี้

 

บอกตามตรงเจโน่เองก็อึดอัดใจที่มาร์คทำดีกับเขาขนาดนี้เพราะเขาเองก็มีแจมินเป็นคนรักอยู่แล้ว

 

แต่ทำไงได้ล่ะในเมื่อมาร์คยังดื้อที่จะเป็นแบบนี้อยู่

 

"หงอยเชียว เป็นอะไรรึเปล่า"

 

เจโน่หันไปมองแจมินก่อนจะยิ้มออกมาอย่างโล่งใจที่อย่างน้อยทุกคนก็ยังดูแลแฮชานได้อย่างดี

 

เว้นเสียก็แต่มาร์คนั่นแหละที่ทำตัวเป็นเด็กไม่สนใจแฮชาน ทั้งที่คนที่แฮชานอยากให้ดีด้วยที่สุดก็คือตัวมาร์คแท้ๆ

 

หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จแฮชานจึงขออาสาเก็บจานไปล้างเองชดเชยที่นอนยาวจนปล่อยให้คนอื่นๆ รอ

 

เจโน่จึงอาสาช่วยไปด้วยเสียเลย

 

"ยิ้มหน่อยสิ ทำหน้าหงอยแบบนี้ไม่สมกับเป็นนายเลยนะ"

 

เอ่ยเตือนเพื่อนตัวเล็กก่อนจะยกมือขึ้นหยิกแก้มนุ่มนี่เบาๆ อย่างเอ็นดู

 

แฮชานเบ้หน้าก่อนจะฝืนส่งยิ้มไปให้เจโน่แล้วหันไปหยิบจานที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาหวังจะเอาไปเก็บ

 

แต่เหมือนเรี่ยวแรงของเขามันจะไม่เป็นใจ...

 

เพล้ง!!

 

จู่ๆ แฮชานก็รู้สึกมือไม้อ่อนจนเผลอตัวปล่อยจานลงตกแตกเกลื่อนพื้นกระเด็นไปบาดขาเจโน่เข้าให้อย่างจัง

 

"ขะขอโทษเจโน่ฉันขอโทษ"

 

แฮชานรีบกล่าวขอโทษขอโพยก่อนจะก้มลงเก็บเศษแก้วของจานที่แตกกระจาย

 

เจโน่พยายามห้ามบอกให้แฮชานนั้นลุกขึ้นมาแต่ว่าแฮชานไม่ได้ฟังคำพูดของเขาเลย แถมยังคงรั้นที่จะเก็บเศษแก้วต่อไป

 

ทั้งที่ตัวเองก็โดนเศษแก้วบาดขาด้วยเหมือนกันแท้ๆ

 

"เจโน่! "

 

เสียงของมาร์คดังขึ้นพลางตัวเจ้าของเสียงก็วิ่งมาดูแผลของเจโน่เสียยกใหญ่ด้วยความเป็นห่วง

 

"ทำบ้าอะไรของนายวะแฮชาน ทำไมซุ่มซ่ามได้ขนาดนี้ เห็นไหมว่าคนอื่นเขาเจ็บตัว"

 

"เห้ยพี่ เกินไปรึเปล่าวะพี่ก็เห็นว่าแฮชานก็เจ็บตัว"

 

แจมินตะโกนแย้งอย่างนึกโมโห มาร์คเป็นห่วงเจโน่มากไปแล้วทั้งที่คนที่เจ็บมากนั่งก้มเก็บเศษแก้วอยู่ตรงนี้

 

มาร์คสบถออกมาอย่างโกรธจัดก่อนจะพาเจโน่ไปทำแผลด้านนอกโดยไม่คิดมี่จะสนใจใยดีคนเจ็บหนักอีกคนนึงเลยแม้แต่นิดเดียว

 

แฮชานทำเพียงนั่งนิ่งๆ กำเศษแก้วในมือเอาไว้ด้วยความเสียใจ ไม่มีแม้แต่เสียงสะอื้นถึงแม้หยดน้ำตามันจะไหลออกมาไม่ขาดสายก็ตาม

 

หยดเลือดในมือที่เกิดขึ้นจากการกำเศษแก้วหยดลงที่พื้นพร้อมกับน้ำตาของเขา ทำเอาเมมเบอร์คนอื่นที่ยืนมองอยู่ต้องรีบกุรีกุจรพาร่างของแฮชานให้ลุกขึ้นมานั่งที่เก้าอี้อย่างร้อนรน

 

"แฮชาน ปล่อยเศษแก้วก่อนนะ"

 

แจมินพูดก่อนที่จะพยายามแกะมือที่สั่นเทานั่นให้คลายเศษแก้วออก

 

คนอื่นได้แต่นึกโกรธมาร์คที่หน้ามืดมัวแต่ห่วงเจโน่จนไม่สนใจคนเจ็บหนักเลยว่าจะเป็นยังไงบ้าง

 

"แจมิน แฟนนายนั่งเจ็บอยู่นู่นนายยังจะสนใจตัวปัญหาอีกหรอวะ"

 

เป็นมาร์คที่เดินกลับมาด้วยความโมโห เจโน่เจ็บขนาดนั้นทำไมถึงได้มาเป็นห่วงตัวต้นเหตุกันนักทั้งที่เด็กนี่ก่อปัญหาแท้ๆ

 

"พี่แหกตาดูหน่อยมาร์ค ว่าใครเจ็บกว่ากันระหว่างเจโน่กับแฮชาน หัดมองความจริงบ้างดิวะ"

 

เหรินจวิ้นทนไม่ไหวเดินไปผลักไหล่มาร์คอย่างแรง ความหน้ามืดของมาร์คทำเพื่อนเขาเสียใจแถมยังทำพวกเขาระอาจนแทบไม่อยากจะมองหน้าอยู่แล้ว

 

"ไปดูเจโน่กันเถอะฉันไม่เป็นไร"

 

เสียงสั่นๆ ของแฮชานเรียกให้ทุกคนต้องหันกลับไปมองอย่างพร้อมกัน

 

รอยยิ้มฝืนๆ นั่นพวกเขาไม่อยากจะเห็นมันเลยสักนิด

 

ทำไมแฮชานไม่คิดจะงอแงเอาแต่ใจบ้างนะ มันทำให้พวกเขาเป็นห่วงทุกครั้งที่คนตัวเล็กแกล้งฝืนทำเหมือนกับว่าตัวเองไม่เป็นอะไร

 

แต่ว่าครั้งนี้มันฝืนเกินไปไหม...

 

มาร์คแค่นหัวเราะออกมาแล้วปลีกตัวออกจากห้องไปอีกครั้งและแฮชานทำเพียงก้มหน้าลงปล่อยน้ำตาให้ร่วงหล่นลงมาไม่ขาดสาย

 

มันเป็นความผิดของเขาเองที่ดันมามือไม้อ่อนปล่อยจานแตกเลยทำให้เจโน่โดนแก้วบาด

 

ทั้งหมดนั่นมันเป็นความผิดของแฮชานเอง

 

มาร์คเดินกระฟัดกระเฟียดออกมาก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งข้างเจโน่อย่างนึกหัวเสีย ทางเจโน่ทำเพียงแค่มองพี่ชายร่วมวงก่อนจะถอนหายใจออกมา

 

"ผมรู้นะว่าพี่เป็นห่วงแฮชาน"

 

"ฉันจะไปห่วงเด็กที่สร้างแต่ปัญหาทำไม"

 

มาร์คตอบเสียงเรียบพลางพิงตัวลงกับพนักพิงของโซฟาอย่างสบายๆ

 

ใครบอกว่ามาร์คห่วงกันล่ะ ที่เข้าไปเมื่อกี้ก็ตั้งใจเข้าไปต่อว่าไม่ได้จะดูว่าอาการของเด็กนั่นว่าเป็นยังไงหรอกนะ

 

"โอ๊ย แจมินปล่อย ฮึก ฉันเจ็บ.."

 

พรึ่บ!!

 

เจโน่ล่ะอยากจะหัวเราะให้กับความปากแข็งของหัวหน้าวงเสียจริง ปากบอกว่าไม่เป็นห่วงแต่พอได้ยินเสียงเพื่อนเขาร้องโอดครวญก็รีบลุกเข้าไปดูเสียอย่างเร็ว

 

แบบนี้น่ะหรอที่ว่าไม่ได้เป็นห่วง

 

มาร์ครีบก้าวเท้ากลับเข้าไปในห้องครัวอีกครั้ง เห็นร่างเล็กๆ ของแฮชานนั่งร้องไห้น้ำตาไหลอาบแก้มด้วยความเจ็บพลันในใจมันก็เกิดปวดหนึบขึ้นมาเหมือนกับว่ามีใครมาบีบรั้นมันแรงๆ

 

สมาชิกคนอื่นในวงหันมามองยังหัวหน้าวงด้วยสายตานิ่งสนิท

 

มาร์คบอกให้ทุกคนออกไปที่เหลือเขาจะจัดการเองในตอนแรกแจมินไม่ยอมเพราะยังโกรธอยู่ที่ที่มาร์คต่อว่าแฮชานแรงขนาดนั้น

 

แต่ก็ถูกคนอื่นๆ ลากให้ออกมาจากห้องจนได้

 

มาร์คเดินตรงไปหยุดอยู่ตรงหน้าของแฮชานที่นั่งก้มหน้าตัวสั่นอยู่บนเก้าอี้

 

เลือดที่หยดเกลื่อนพื้นทำให้มาร์คได้รู้ว่าเด็กตรงหน้าเขาคงจะเจ็บหนักมากอย่างที่คนอื่นได้พูดไว้ ไหนจะแผลแก้วบาดที่มือทั้งสองข้างนั่นอีก

 

เขาคงใจร้ายกับเด็กคนนี้มากเกินไปจริงๆ นั่นแหละ

 

"ทำไมไม่ยอมทำแผล"

 

"....."

 

ไร้เสียงตอบรับจากแฮชาน มีเพียงเสียงสะอื้นเบาๆ ที่ดังขึ้นให้ได้ยิน

 

มาร์คนั่งชันเข่าก่อนจะค่อยเอื้อมมือไปประคองเท้าของแฮชานขึ้นมาวางไว้ที่หัวเข่าอีกข้างนึงของตัวเอง

 

เอื้อมไปหยิบยากับสำลีที่วางอยู่บนโต๊ะและค่อยๆ บรรจงทามันลงกับแผลของแฮชานอย่างเบามือ

 

และครั้งนี้แฮชานไม่แม้แต่จะดิ้นสักนิดเขายอมที่จะนั่งนิ่งๆ ให้มาร์คทำแผลให้แม้จะมีแสบบ้างแต่คนเจ็บก็ไม่ร้องออกมาสักนิดเดียว

 

ทำแผลที่ขาและที่มือทั้งสองข้างเสร็จมาร์คก็ลุกขึ้นมายืนจ้องมองใบหน้าที่เปื้อนคราบน้ำตาของคนตัวเล็กด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ใดๆ

 

แต่ใครจะไปรู้ว่าในความเป็นจริงมาร์คเสียใจและอยากขอโทษมากขนาดไหนที่ได้เห็นน้ำตาของแฮชาน

 

ตั้งแต่แรกมาร์ครู้สึกได้ว่าเด็กคนนี้น่ารักมาก และมันมากเกินไปจนเขากลัวว่าความรู้สึกที่มีต่อเจโน่จะเปลี่ยนไป

 

มาร์คเลยเลือกที่จะเมินใส่เด็กคนนี้ ทำตัวใจร้ายอยู่หลายต่อหลายครั้งเพราะกลัวใจตัวเอง แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย ในเมื่อแฮชานยังคงทำตัวน่ารักกับเขาอยู่ทุกครั้งไป

 

เมื่อวานที่แฮชานยอมนอนนิ่งๆ ให้มาร์คกอดเรื่องนั้นมาร์ครู้ดีแถมตัวเขาเองก็ตั้งใจกอดแฮชานไม่ใช่ว่าเมาแล้วลืมตัวหรือไม่รู้เรื่องอะไรหรอก

 

และเพราะเรื่องเมื่อวานมันยิ่งทำให้มาร์คสับสนกับตัวเองอย่างที่สุด เพียงแค่ได้กอดได้สูดดมกลิ่นหอมๆ จากคนตัวเล็ก ได้นอนมองแฮชานซบอยู่ที่อกมันก็ทำให้มาร์คใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ

 

ยิ่งมาตอนนี้ที่ได้เห็นว่าคนตัวเล็กตรงหน้ามีน้ำตามากมายทั้งที่ปกติเป็นเด็กสดใสร่าเริงเขาก็ยิ่งรู้สึกไม่ชอบใจเอาเสียเลย

 

จะเป็นอะไรไหมถ้าตอนนี้มาร์คจะขอช่างมันกับเรื่องอะไรก็แล้วแต่แล้วปฏิบัติกับเด็กตรงหน้าคนนี้ซะใหม่

 

มันจะสายไปไหม...

 

"ขอบคุณที่ทำแผลให้นะครับ พี่มาร์คไปดูแลเจโน่เถอะ ผมโอเคแล้ว"

 

"อย่าไล่กันได้ไหม"

 

มาร์คตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

 

ไม่หรอก... จริงๆ แล้วเขาเลิกหงุดหงิดไปนานแล้วตั้งแต่เห็นน้ำตาของคนตรงหน้า แต่ว่าแค่รู้สึกอยากจะลองแกล้งเล่นอีกสักหน่อยแค่นั้นเอง

 

หลังจากนี้จะใจดีด้วยให้มากๆ เลยเขาสัญญา

 

แฮชานเงียบลงอีกครั้งเพราะกลัวเหลือเกินว่ามาร์คจะโกรธกัน แต่มาร์คกลับมองว่าคนตรงหน้าของเขาช่างน่ารักและน่าเอ็นดูเสียจนเขาแทบจะอดใจฟัดแรงๆ ไม่ไหวแล้ว

 

"ร้องไห้ทำไม"

 

"....."

 

"เจ็บมากใช่ไหม"

 

"....."

 

ไร้เสียงตอบทว่าหัวเล็กๆ กลับผงกขึ้นลงเบาๆ เป็นคำตอบ มาร์คเชยคางของแฮชานขึ้นให้เขาเงยหน้ามาสบตากัน

 

แต่สายตาของแฮชานกลับลอกแล่กไปมาไม่กล้าสบตากลับ สงสัยเพราะน่าจะยังกลัวอยู่

 

ทำไมถึงได้น่ารักขนาดนี้นะ...

 

ถ้ารู้ว่าสุดท้ายตัวเองจะทนความน่ารักไม่ไหวเขาจะไม่ทำตัวบ้าๆ ใจร้ายกับคนตรงหน้าตั้งแต่แรกหรอก

 

"มองตาฉันแฮชาน"

 

มาร์คกดเสียงต่ำออกคำสั่งกับแฮชานจนเจ้าตัวต้องทำตามรีบหันมามองตาแของเขาแทบจะทันที แม้ดวงตาคู่สวยจะสั่นเพราะความกลัวอยู่ก็ตาม

 

"เป็นอะไรทำไมจู่ๆ ถึงทำจานแตก"

 

"มะไม่ได้ตั้งใจแต่ว่ามือมัน..."

 

ตอบเสียงสั่นกลับไปพลันน้ำตามันก็จะไหลอีกครั้งให้ได้

 

ที่พี่มาร์คมาทำแผลให้คงจะอยากให้เขาไปขอโทษเจโน่ได้สะดวกๆ สินะ

 

"จะร้องไห้อีกแล้ว ขี้แยจังนะนายน่ะ"

 

พูดพร้อมกับยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาบนแก้มนิ่มนั่นเบาๆ แม้จะแปลกใจกับท่าทีของมาร์คแต่แฮชานก็ไม่กล้าถามอะไรออกมา

 

"รู้สึกไม่ดีทำไมไม่บอก จะเก็บจานเองทำไม"

 

"....."

 

"รู้ไหมคนอื่นเขาเป็นห่วงกันทั้งนั้น"

 

"....."

 

"ฉันเองก็ห่วงนาย ไม่รู้หรือไง"

 

แฮชานขมวดคิ้วมองมาร์คด้วยความแปลกใจกับคำพูดที่ได้ฟังเมื่อสักครู่

 

เมื่อกี้เขาฟังไม่ผิดใช่ไหม มาร์คบอกว่าเป็นห่วงเขาจริงๆ ใช่ไหม

 

"พี่มาร์ค"

 

"ขอโทษที่พี่พูดจาไม่ดีกับนาย ฉันมัวแต่เป็นห่วงเจโน่มากเกินไป"

 

อีกแล้วสินะ

 

ยิ่งได้ยินว่าพี่มาร์คเป็นห่วงเจโน่มากเท่าไรมันก็ยิ่งทำให้แฮชานรู้สึกปวดหนึบๆ ในใจทุกครั้งเลย

 

"ผมเข้าใจครับ ก็พี่รักเจโน่มากขนาดนั้นก็ต้องเป็นห่วงอยู่แล้วผมเข้าใจดี"

 

ปากบอกว่าเข้าใจแต่น้ำเสียงสั่นเครือบวกกับเสียงสะอื้นในตอนหลังนี่มันทำให้มาร์ครู้ว่าแฮชานน่ะไม่ได้เข้าใจความรู้สึกของมาร์คจริงๆ เลย

 

ไม่เข้าใจว่าต่อไปนี้คนที่มาร์คจะรู้สึกรักมันจะมีแค่ลีแฮชานคนเดียวเท่านั้น

 

มาร์คเลื่อนเก้าอี้มานั่งตรงข้ามกับแฮชานก่อนจะกระตุกแขนเล็กๆ นั่นเข้ามาหาตัวเองจนแฮชานตัวลอยตามแรงเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขาจนได้

 

"รู้ได้ไงว่าฉันรักเจโน่"

 

"ก็การกระทำพี่มันบอก"

 

แฮชานตอบในขณะที่สายตาก็สบเข้ากับสายตาของมาร์คไม่วางตา

 

มาร์คยิ้มออกมาก่อนจะนึกคิดว่าที่ผ่านมาเขาแสดงออกมากขนาดนั้นเลยหรอว่ารู้สึกยังไงกับเจโน่

 

ท่าทางแจมินคงจะเกลียดขี้หน้าเขาไปอีกนานเลยล่ะมั้งถ้าเป็นแบบนั้นจริง

 

แต่ตอนนี้มาร์คไม่สนใจหรอกว่าแจมินจะเกลียดหรือจะยังไง เขาขอเคลียร์กับคนน่ารักตรงหน้านี้ให้เข้าใจก่อนเป็นอย่างแรกเลย

 

"พี่บอกอะไรให้เอาไหม"

 

แฮชานขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจแต่ก็ยอมพยักหน้าให้เป็นคำตอบซึ่งมันก็เข้าทางมาร์คเสียพอดี

 

เขาเลื่อนหน้าเข้าไปประชิดกับหน้าของแฮชานก่อนจะค่อยๆ บรรจงจูบเบาๆ ที่แก้มนุ่มนิ่มจนแฮชานต้องหลับตารับสัมผัสนั้นไปอย่างเคลิบเคลิ้ม ก่อนที่เขาจะค่อยๆ กระซิบเบาๆ ที่ข้างหูว่า

 

"คนที่พี่จะรักอยู่ตรงหน้าพี่ต่างหาก"

 

"เดี๋ยวก่อนพี่มาร์ค..."

 

แฮชานร้องเสียงหลงเมื่อจู่ๆ มาร์คก็จู่โจมเขาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว

 

ในใจมันเต้นถี่รัวจนกลัวว่ามันจะระเบิดออกมาซะให้ได้ แน่นอนว่าเขาดีใจที่ได้ยินมาร์คบอกแบบนั้น

 

ที่ผ่านมาแฮชานไม่เคยคิดหวังว่ามาร์คจะมาบอกกันว่ารัก ขอเพียงแค่ได้รับการปฏิบัติที่ดีเหมือนที่คนอื่นได้บ้างก็แค่นั้น

 

แต่นี่มันเกินกว่าความคาดหมายไปมาก มากเสียจนแฮชานไม่รู้ว่าตัวเองควรทำยังไง ทุกอย่างที่อัดแน่นในใจมันเหมือนจะหายไปจนหมดเมื่อได้ยินคำสารภาพของมาร์ค

 

มาร์คยิ้มก่อนจะหยอกล้อเด็กขี้แยโดยไม่ลืมที่จะยกนิ้วขึ้นมาปาดเอาน้ำตาออกจากใบหน้าสวยๆ ของคนตรงหน้าเขา

 

"พี่รักเพื่อนผมแล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกวะ"

 

"นั่นดิ อมอะไรไว้อยู่นั่นแหละ"

 

เป็นแจมินตามด้วยเหรินจวิ้นที่เอ่ยถามด้วยความนึกรำคาญกับความปากแข็งของพี่ชายร่วมวง

 

แน่นอนว่าพวกเขายืนดูอยู่สักพักแล้ว เกลียดเหลือเกินไอคำพูดหวานๆ ของพี่มันที่ใช้พูดกับเพื่อนของเขา

 

มาร์คหันหลังกลับไปมองก่อนจะยกยิ้มมุมปากอย่างไม่ใส่ใจ ส่วนแฮชานก็ได้ส่งยิ้มหวานน่ารักไปให้จนคนหน้าประตูพากันเอ็นดูไม่หยุด

 

"แฮชาน"

 

"เจโน่!"

 

เห็นเพื่อนสนิทตายิ้มเดินกระเผลกเข้ามาแฮชานก็รีบผละตัวออกจากมาร์คหวังจะเดินไปดูอาการโดยไม่ได้นึกถึงอาการตัวเองเลย

 

และเพียงแค่ร่างกายของตัวเองหลุดจากอ้อมกอดของมาร์คก็แทบจะล้มลงไปนั่งอยู่กับพื้น ยังดีที่มาร์ครีบเข้ามาประคองไว้ได้ทันไม่งั้นล่ะคงโดนคนอื่นดุกันยกใหญ่แน่ๆ

 

"ระวังหน่อยสิ เราเจ็บอยู่นะ"

 

มาร์คเอ็ดเสียงแข็งเพราะความเป็นห่วง แฮชานเลยได้แต่เอ่ยขอโทษเสียอ่อนเสียงหวานด้วยความรู้สึกผิด

 

หัวหน้าวงถอนหายใจออกมาก่อนจะช่วยพยุงร่างของแฮชานให้เดินไปหาเจโน่

 

"นายไม่เป็นอะไรมากใช่ไหม"

 

"อืม นายเถอะเจ็บมากน่าดู"

 

แฮชานยกยิ้มหวานออกมาอีกครั้งแล้วส่ายหัวให้เพื่อบอกว่าตัวเองไม่เป็นไรจนผมนิ่มฟูขึ้นอย่างน่าเอ็นดู

 

หลังจากเอ่ยถามกันด้วยความเป็นห่วงจนเรียบร้อยแล้วทุกคนจึงพากับไปที่ห้องนั่งเล่นเพื่อหาอะไรทำด้วยกันในวันว่างๆ

 

 

.

 

.

 

.

 

 

"พี่มาร์ค! ห่างๆ พี่ผมหน่อยก็ได้มั้ง"

 

เฉินเล่อเอ็ดหัวหน้าวงตัวเองด้วยความหมั่นไส้

 

ตั้งแต่คบกับคนน่ารักของวงมาร์คก็ตัวติดแฮชานแจไม่ยอมห่างไปไหน

 

ช่วงนี้แฟนคลับก็ออกมาพูดกันว่าโมเม้นเยอะจนน่าแปลกใจ เพราะปกติมาร์คจะชอบผลักไสไล่ส่งแฮชานแต่กลับกันตอนนี้เป็นมาร์คเองที่เข้าไปวอแวซะมากกว่า

 

แถมตอนนี้ยังจะนอนหนุนตักแฮชานให้แฮชานป้อนขนมให้อีก พอถามว่ากินเองไม่เป็นหรือไงก็อ้างว่าเล่นเกมอยู่มือไม่ว่าง

 

กวนส้นตีนดีไหมล่ะพี่มัน...

 

"พี่มาร์ค! พี่โกงผมอีกแล้ว"

 

เหรินจวิ้นโยนจอยลงกับพื้นก่อนที่จะยกตีนถีบหัวหน้าวงไปเสียหนึ่งที

 

เล่นเกมกับพี่มันทีไรเป็นต้องแพ้ให้แม่งทุกที ส่วนเจ้าตัวก็นอนหัวเราะหนุนตักแฟนเด็กที่เป็นเพื่อนของเขาอย่างสบายใจเฉิบไม่เกรงใจน้องนุ่งซะบ้างเลย

 

"แจมิน วันนี้เจโน่กลับมากี่โมงอะ"

 

"เราจะไปถามถึงคนอื่นทำไมครับ พี่อยู่ตรงนี้เราต้องสนใจพี่สิ"

 

มาร์คพูดแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงออดอ้อนก่อนจะถูหัวตัวเองไปกับขาอ่อนนุ่มของแฟนเด็กแสนน่ารักจนคนโดนอ้อนถึงกับยิ้มหวานออกมากับความขี้อ้อนของเขา

 

ตั้งแต่ได้คบกับแฮชานมาร์คก็เปลี่ยนไปจากหลังมือเป็นหน้ามือกันเลยทีเดียว

 

แต่ก่อนเห็นว่าเป็นพวกชอบหลบไปอยู่เงียบๆ แค่คนเดียว เดี๋ยวนี้ขยันกวนตีนสมาชิกในวงหน้าตายบ่อยมากจนน่าหมั่นไส้

 

แล้วที่เปลี่ยนจนน่าแปลกใจก็ไอความขี้อ้อนมากขึ้นโดยเฉพาะกับแฟนเด็กของพี่มันนี่แหละ อ้อนได้ทั้งวันจนสมาชิกในวงเริ่มจะคิดแล้วว่านี่มันอายุเยอะที่สุดในวงจริงๆ หรือเปล่า

 

"น่าจะสี่ทุ่มล่ะมั้ง นายจะรอดูซีรีย์กับเจโน่ล่ะสิ"

 

แจมินที่นั่งอยู่บนโซฟาเอ่ยถามกลับก่อนจะได้รับรอยยิ้มน่ารักกลับมาแทนคำตอบ

 

จีซองที่พึ่งจะเดินออกมาจากห้องนอนของตัวเองเห็นว่ามาร์คนอนหนุนตักพี่ชายสุดที่รักของตัวเองก็อดหมั่นไส้ไม่ได้

 

เขาเดินไปผลักมาร์คออกแล้วเป็นฝ่ายที่ล้มตัวลงหนุนตักแฮชานเสียเอง

 

"จีซอง! ลุกออกจากตักแฟนฉันเดี๋ยวนี้"

 

"อะไรล่ะ แฟนพี่ก็พี่ชายผมเหมือนกัน อยากหนุนตักพี่ชายตัวเองบ้างไม่ได้รึไง"

 

มาร์คเริ่มโวยวายเสียงดังก่อนที่เสียงถกเถียงของคู่กัดตลอดกาลอย่างพี่ใหญ่กับน้องเล็กจะดังขึ้นเรื่อยๆ

 

แฮชานหัวเราะออกมาก่อนจะห้ามปรามทั้งสองคนเอาไว้แล้วบอกให้มาร์คนอนฝั่งขวา ส่วนจีซองก็นอนฝั่งซ้ายจนมาร์คยอม(จำใจ)ทำตาม

 

แต่ก็ไม่วายแอบผลักหัวจีซองออกบ่อยๆ เพราะความหมั่นไส้

 

แจมินมองภาพตรงหน้าก่อนจะหัวเราะออกมาด้วยความนึกขำปนหมั่นไส้พี่ใหญ่ของวงที่ดูจะมีความสุขเกินหน้าเกินตาคนอื่นเหลือเกิน

 

รู้แบบนี้เขาคงไม่ยอมให้แฮชานตกลงคบกับพี่มันไปง่ายๆ หรอก

 

หมั่นไส้ชะมัด

 

 

.

 

.

 

.

 

.

 

.

 

 

อย่าด่าพี่เขาเยอะเลยนะคะ พี่เขาแค่ยังไม่อยากยอมรับว่าตัวเองน่ะหลงสเน่ห์น้องเข้าแล้ว คิกคิก

 

จริงๆ เรื่องนี้เราแต่งออกมาแบบไม่ได้คิดอะไรเลยค่ะ นึกพลอตออกก็เลยแต่งมันซะเลย หวังว่าทุกคนจะทนอ่านเรื่องนี้ได้จนจบนะคะ

 

Love You 3000

ถึงนักอ่านที่รัก
×

Capture Chat Story

แชร์
ทวีต Line it

ปักหมุด

[ชื่อคนเขียน] -
[วันที่สร้างคอมเม้น]
[ชื่อคนเขียน] -
[วันที่สร้างคอมเม้น]