canvas
Upload to Server | Delete from Server
html
โดย
ทางแยกที่ต้องเลือก

 

(กงจวิ้นพากย์)

ผมเปิดดูมือถือ เห็นข่าวซุบซิบที่อาเซียงส่งมาให้ดูเป็นระยะๆ แต่ไม่ได้ใส่ใจมากนัก เพราะถึงยังไงผมและจางเจ๋อฮั่นก็คบกันจริงๆ ไม่มีอะไรจะต้องปิดบัง 

ที่จริงผมรู้ข่าวนี้มาซักพักแล้ว ตอนนั้นผมถึงขอให้จางเจ๋อฮั่นอย่าพึ่งกลับจีน ให้อยู่รัสเซียต่อ แต่ว่าร่างบางดูท่าจะอยากกลับมาทำงาน ผมจึงยอมตามใจ แล้วก็พยายามจำกัดการเข้าถึงข่าวของเขาไปด้วย เพราะไม่อยากให้แฟนของผมต้องมามีเรื่องไม่สบายใจ 

พอมาในตอนนี้ มันคงยากเกินจะปิด ทั้งภาพออกงานคู่ ถ่ายแบบคู่ และความสนิทสนมของพวกเรา อีกทั้งก็มีหลายๆสำนักพิมพ์ที่อยากจะเล่นข่าวนี้ใจจะขาด แม้บริษัทต้นสังกัดจะพยายามช่วยปิดแล้ว แต่คิดว่าคงมีแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้พอควร ถึงได้กลายเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้

 

กริ๊งงงง เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น 

ผมมองไปที่ปลายสาย ไม่อยากจะรับเลย แต่เพราะทางนั้นโทรจิกมาทั้งวัน จึงตัดสินใจรับให้มันจบๆ

"มีไรเตี่ย" ผมพูดเข้าเรื่องทันที

"ไอข่าวซุบซิบนั่นน่ะ ตกลงมันยงไงกันแน่"

"ข่าวว่ายังไงก็ตามนั้นแหละ" ผมพูดออกไป ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะพอใจหรือไม่

"แกนี่มันขยันสร้างเรื่องจริงๆ ให้ตายสิ ฉันอนุญาตให้แกไปเป็นดารา เพื่อจะได้สร้างชื่อเสียง มีหน้ามีตาให้กับบริษัท แต่ดูที่แกทำ ไปคว้าไอ้เด็กที่มีแต่ข่าวเสียๆหายๆนั่นมา แกรู้มั้ย คนเค้าพูดถึงไอ้เด็กนั่นว่ายังไงบ้าง มันทั้งยอมนอนกับผกก. แย่งคนที่มีครอบครัวแล้ว ถ่ายคลิปแบล็คเมลล์เค้าไปทั่ว นี่ยังไม่หมดนะ" เตี่ยพร่ำด่าจนผมรู้สึกไม่อยากจะฟัง

"เตี่ยจะโทรมาบอกแค่นี้ใช่มั้ย ผมมีถ่ายงานต่อ" ผมตัดบท

"เหอะ ถ่ายงานกับไอ่เด็กหนุ่มนั่นน่ะหรอ?" 

"เขามีชื่อนะครับ เขาชื่อ.."

"ฉันไม่สน...ฉันต้องการให้แกเลิกยุ่งกับมันเดี๋ยวนี้" เตี่ยพูดตัดบท มีหรอที่ผมจะยอมให้เตี่ยมาบังคับ

"เชิญผิดหวังเลยครับเตี่ย เพราะผมไม่เลิกแน่นอน" 

"นี่แกเคยสนใจบ้างมั้ย ที่ข่าวออกไปแบบนี้ มีผลต่อหุ้นของบริษัทเราแค่ไหน ห๊า"

"เตี่ยจะสนใจงานอสังหาทำไมครับ สนใจแค่ธุรกิจสกปรกๆนั่นไปสิ หรือว่าแม้แต่การค้าอาวุธ และค้ามนุษย์ก็ได้รับผลกระทบด้วยหรอ?" ผมประชดเตี่ยกลับไป

"นี่แก รู้ไหม ฝ่ายบริหารจะมองครอบครัวเราเป็นยังไง...ถ้าแกไม่เลิกยุ่งกับมัน ก็ตัดขาดออกจากตระกูลฉันไปเลย"

"ถ้ามันผิดมากขนาดนั้น เตี่ยก็เลิกเรียกผมว่าลูกได้เลยครับ" 

ด้วยความโมโหที่เตี่ยพูดจาดูถูกทั้งผมและจางเจ๋อฮั่น ดูถูกในความรักของพวกเรา ผมตัดสายเตี่ยทิ้งทันที 

พอผมถ่ายงานเสร็จ ตั้งใจจะกลับห้องไปทำกับข้าวรอร่างบาง มือถือก็มีไลน์จากแม่ของผม ระบุว่าเตี่ยเข้าโรงพยาบาลอยู่ห้องไอซียู

.

.

.

.

(ไรท์พากย์)

 

เมื่อเขามาถึงโรงพยาบลก็พบกับแม่ และอาเซียงยืนอยู่ ด้วยใบหน้าสำนึกผิด

"นี่มันอะไรกัน?" ร่างสูงที่เดินเข้ามาให้ห้องพิเศษของโรงพยาบาล กลับเห็นพ่อของตนเอง ที่กำลังนั่งสูบไปท์อย่างใจเย็น ไม่ได้มีอาการป่วย แบบที่แม่ของเขาไลน์มาบอกแต่อย่างใด

"ถ้าฉันไม่ใช้วิธีนี้ แกจะยอมมาเจอฉันมั้ยล่ะ" คนเป็นพ่อพูด แฝงความน้อยใจลูกชาย จริงๆเขาพวกเขาก็มีความห่วงใยให้กัน เพียงแค่ไม่แสดงออก

"ถ้าเตี่ยไม่เป็นอะไรแล้ว ผมกลับล่ะ" กงจวิ้นตั้งท่าจะเดินออกไป

"ฉันมีเรื่องสำคัญจะคุยกับแก" 

"ถ้าเป็นเรื่องผมกับแฟนของผมล่ะก็ ไม่ต้องคุยให้เสียเวลา" ร่างสูงบ่ายเบี่ยง จนอีกฝ่ายถอนหายใจเฮือกใหญ่

"แกคงไม่อยากให้คลิปนี้ของแฟนแกหลุดออกไปสินะ"

กงจวิ้นถึงกับหยุดเดิน และหันกลับไปมองหน้าจอมอนิเตอร์ ที่ลูกน้องของพ่อกำลังเปิดฉาย

เป็นคลิปภายในโรงแรมแห่งนึง ที่จางเจ๋อฮั่นเข้าไปพบกับน้าของเขา นั่นคือผกก.เคนนะ และในนั้น มีจางเหมยลี่ กับเด็กสาวสองคนตามไปด้วย ในคลิปที่ถูบันทึกไว้นั้นชัดเจนว่า จางเจ๋อฮั่นกำลังจัดฉากจะถ่ายคลิปแบล็คเมลล์เคนนะ เพื่อให้ได้มาซึ่งบทนำในหนังฟอร์มยักษ์ ถึงเขาจะพอรู้อยู่แล้วว่าร่างบางต้องได้บทนำนี้มาอย่างไม่ใสสะอาด แต่เขาคิดไม่ถึงว่าผู้เป็นพ่อจะมีคลิปหลุดนี้ด้วย

 

"นี่...เตี่ย ไปเอาคลิปนี้มาจากไหน"

"จากไหนไม่สำคัญ แต่ถ้าคลิปนี้หลุดออกไปล่ะก็ ไอ่เด็กนั่นหมดอนาคตแน่ หึ นี่น่ะแทบเท่าอาชกรรมเลยนะ"

"นี่เตี่ยกำลังจำขู่แบล็คเมลล์แฟนลูกตัวเองนะ" กงจวิ้นตวาดสายตาดุใส่คนเป็นพ่อ

"แกทำให้ฉันไม่มีทางเลือก ฉันทำเพราะเป็นห่วง แกคิดว่า แกรู้จักมันดีพอแล้วหรอห๊ะ"

"เรื่องนั้น มันไม่สำคัญสำหรับผม พ่อเลิกให้คนมายุ่งเรื่องของเราได้แล้ว"

"ถ้าฉันไม่ตามสืบ ฉันจะรู้มั้ยว่าแฟนแกน่ะ เคยฆ่าคนตายมาก่อน"

ประโยคของผู้เป็นพ่อทำเอากงจวิ้นตาโต ไม่แน่ใจในสิ่งที่ได้ยิน หรือเขาเองจะหูฟาดไป

"มะ เมื่อกี้...เตี่ยว่าไงนะ"

"ฆ่าคน แฟนแกน่ะ เคยต้องสงสัยคดีฆ่าคนตาย2คน เมื่อ 18 ปีก่อนที่มันจะก้าวเข้าวงการ เรื่องนี้ได้นายทหารใหญ่ ช่วยมันให้รอดพ้นคดีมาได้ แม้คดีจะหมดอายุความไปแล้ว แต่ถ้าหากฉันใช้เส้นสายให้รื้อคดีมาล่ะ คนที่ยอมแลกทุกอย่างเพื่อให้ได้มาเพื่อชื่อเสียง เงินทอง โดยไม่สนวิธีน่ะ มันไม่ใช่คนดีหรอกไชม่อน ฉันขอถามแกอีกครั้ง...แกรู้จักเค้าดีจริงๆหรอ"

ร่างสูงแม้จะถูกบิดาผู้ให้กำเนิดยุแยงแค่ไหน แต่ใจของเขาหนักแน่นไปทางจางเจ๋อฮั่น เขาเชื่อว่ามันต้องมีเหตุผลที่ร่างบางทำเรื่องเลวร้ายถึงขั้นฆ่าคน และอีกอย่าง เรื่องมมันก็ผ่านมานานมากแล้ว ร่างบางที่เขารู้จักในตอนนี้ แม้จะเป็นคนอารมณ์ร้าย แต่ลึกๆเป็นคนใจอ่อน จิตใจดี รักและเป็นห่วงครอบครัวเสมอ เขาจึงเลือกที่จะเชื่อใจในตัวร่างบาง

"ผมยังยืนยันคำเดิมครับเตี่ย...ผม เชื่อ ใจ เขา หวังว่าพ่อคงไม่ทำร้ายลูกชายด้วยการจับแฟนลูกชายเข้าคุกนะครับ"

คนเป็นพ่อถึงกับถอนหายใจ นี่เขาลงทุนสืบประวัติจางเจ๋อฮั่น หาหลักฐานต่างๆมาเปิดโปงขนาดนี้ ลูกชายคนเดียวของเขายังเลือกที่จะเข้าข้างคนนั้นอีก 

"ถ้ายังงั้น ฉันจะให้โอกาสพวกแกสองคนได้พิสูจน์ ดูสิ้ ว่าระหว่างแก กับ ชื่อเสียงในวงการ ไอ่เด็กนั่นจะเลือกอะไร"

"เตี่ย...หมายความว่าไง"

"ฉันจะปล่อยพวกแกไป และจะไม่เข้าไปยุ่งกับชีวิตรักของพวกแก ถ้าแกยอมทิ้งอาชีพนักแสดงนั่น แล้วมาดูแลกิจการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆในเครื่อของบริษัท ใช้ชีวิตเป็นคนธรรมดา ไม่ใช่คนมีชื่อเสียง" ชายแก่ยื่นข้อเสนอ

"แน่นอนผมทำได้" ร่างสูงรีบตอบตกลงอย่างไว เดิมทีเขาก็ไม่ได้สนใจการเป็นดาราเท่าไหร่ เขาเพียงแค่เบื่อเท่านั้น

"ฉันหมายถึงทั้งคู่!! ฉันรู้อยู่แล้วว่าแกน่ะคงยอมทิ้งชื่อเสียงกลับไปใช้ชีวิตเป็นนักธุรกิจหนุ่มธรรมดาๆได้เพื่อมัน แต่ไอ้เด็กนั่นน่ะ....แกแน่ใจหรอว่ามันจะยอมทิ้งชื่อเสียง เพื่อแก"

"เขายอมแน่นอน" กงจวิ้นเสียงแข็ง เขาค่อนข้างมั่นใจว่ายังไงแล้ว จางเจ๋อฮั่นต้องเลือกเขาอย่างแน่นอน

"ฉันจะรอดู"

กล่าวจบคนเป็นพ่อก็เดินสวนออกไปทันที ขณะเดียวกัน แม่และอาเซียงก็เดินเข้ามา

 

 

 

"เฮียยยย หนูขอโทษ" อาเซียงกล่าวขอโทษพี่ชายของเธอ เพราะเธอเองไม่ยอมบอกพี่ชาย ว่าพ่อแกล้งป่วยเข้าโรงพยาบาล ทุกอย่างมันเป็นแผน

"ไม่เป็นไร เธอกลับไปเถอะ พรุ่งนี้ต้องคอยตอบนักข่าวที่โทรเข้ามาอีก"

"อือ" อาเซียงกอดลาแม่และเดินคอตกกลับไปแต่โดยดี

"ไซม่อน...ลูก" ผู้เป็นแม่ จับหัวไหล่ของลูกชายเอาไว้ ก่อนจะดึงเข้ามากอดปลอบ

"แม่......" ไม่รู้ทำไมในใจเขาถึงหนักอึ้งแปลกๆ ทั้งๆที่เขาเองมั่นใจแน่นอนว่าทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย

"ถ้าหนูฮั่นเขารักลูก เขาจะรักที่ลูกเป็น ไม่ว่าลูกแม่จะเป็นดาราหนุ่ม หรือเป็นนักธุรกิจ เขาก็พร้อมจะอยู่เคียงข้างลูก เหมือนกับแม่ ที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างพ่อของลูก แม้ว่าพ่อของลูกจะทำงานที่ใครๆรังเกียจ แต่แม่รับได้ เพราะแม่รักพ่อ"

"....." กงจวิ้นเงียบ เขากอดตอบแม่ของเขา พลางในใจก็อดคิดไม่ได้ว่า หากผลลัพธ์ที่ออกมา มันไม่ตรงใจของเขาล่ะ เขาจะรับมันได้มั้ย จะขาดสติทำร้ายร่างบางรึเปล่า

.

.

.

.

ณ คอนโดกงจวิ้น

จางเจ๋อฮั่นที่กลับมาคอนโด แต่ไม่พบร่างสูงเลย เขาพยายามกดสายโทรออกหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีคนรับ โทรหาอาเซียงก็ไม่ติด หรืออาจจะสายชนกับพวกนักข่าวที่โทรเข้าเพื่อขอนัดสัมภาษเรื่องข่าว

รอมานานหลายชั่วโมงแล้ว เขาเริ่มเป็นห่วงกงจวิ้นขึ้นมา จึงตั้งใจจะออกไปตามหา

แกร๊ก เสียงลูกบิดถูดเปิดออก เผยให้เห็นร่างสูงที่กลับมาในสภาพมึนเมาเล็กน้อย 

"จวิ้นจวิ้น นี่นายไปดื่มมาหรอ" ร่างบางรีบเข้าไปพยุง พร้อมเอ่ยถาม

"อึก...นิดหน่อยน่ะ" กงจวิ้นสะอึก ก่อนจะตอบ เขาหน้าแดงเพราะแอลกอฮอล์ เดินก็โซเซ จนร่างบางเกือบแบกไม่ไหว กว่าจะถึงเตียงนอน ก็เล่นเอาเหงื่อตก

ร่างบางถอดรองเท้า และสูทตัวนอกออกให้ พร้อมกับไปรินน้ำให้ดื่ม เพื่อให้ร่างสูงสร่างเมาบ้าง

"นี่นายไม่อ่านไลน์เลยนะ หายไปไหนมาทั้งวัน เป็นห่วงมากนะรู้มั้ย นี่เกือบไปแจ้งความคนหาย...อุ๊บ"

บนยังไม่เสร็จ ก็ถูกกอดอย่างไม่ทันตั้งตัว เขาเองก็กอดตอบใช้มือลูบหลังคนตัวสูง จางเจ๋อฮั่นคิดว่าเขาคงจะเครียดที่เห็นข่าวแล้วไปดื่มเหล้าเพื่อระบายอารมณ์

"นายคงเครียดสินะเรื่องข่าว อย่าคิดมากเลยนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ลี่จะไปคุยกับทางผู้ใหญ่ให้ เรื่องที่รัฐบาลสั่งแบนงานน่ะ" จางเจ๋อฮั่นปลอบใจ เพราะคิดว่า กงจวิ้นยังเป็นน้องใหม่ของวงการ อาจจะกังวลกับการตกเป็นข่าวที่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลครั้งแรก

"ทำไมฮั่นถึงดูไม่เครียดเลยล่ะ?" กงจวิ้นแสร้งถาม เพื่อต้องการคำตอบบางอย่าง

"อ๋อ ชินน่ะ ฮั่นข่าวฉาวเยอะจะตาย" เจ๋อฮั่นอธิบาย แต่นั่นไม่ใช่คำตอบที่ร่างสูงต้องการฟัง

"แล้ว...ฮั่นเคยมีข่าวที่เกี่ยวข้องกับทางรัฐบาลจีน...หรือ ข่าวที่ต้องมีเรื่องของกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้องมั้ย" คราวนี้เขาเลือกที่จะถามเข้าประเด็น

"จวิ้น...นี่นายอยากรู้อะไรกันแน่ ถามมาตรงๆเถอะ" จางเจ๋อฮั่นรู้ได้ทันที

"....." กงจวิ้นก้มหน้าไม่กล้าถามต่อ เพราะเขาคิดว่าถูกร่างบางโกรธ

จางเจอฮั่นนั่งลงบนขอบเตียงข้างๆกงจวิ้น พร้อมกับถอนหายใจยาวเฮือกใหญ่

"จริงๆแล้ว...ก็เคยนะ เคยมีคดีความ เป็นข่าว ขึ้นโรงขึ้นศาลเลยแหละ"

"ฮั่นไปทำอะไรมา"กงจวิ้นถามกลับ เอียงคอสงสัย

"ไม่ใช่ว่าจวิ้นรู้อยู่แล้วหรอ?" เป็นอีกครั้งที่ร่างบางมองเขาออกอย่างทะลุปุโปร่ง

"คือ...ผมอยากได้ยินความจริงจากปากฮั่นมากกว่า แต่ถ้าฮั่นไม่อยากเล่าก็..."

"เล่าสิ...ถ้าจวิ้นอยากรู้ ฮั่นจะเล่าให้ฟัง มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องปิดบังอะไรนิ"

"....."กงจวิ้นเงียบ เพื่อฟังคนข้างๆพูดต่อ

"เรื่องมันนานมากแล้ว ตอนนั้นพ่อกับแม่ฮั่นตายเพราะอุบัติเหตุ ผมและพี่ลี่เลยส่งไปอยู่บ้านลุงกับป้า แต่ว่าบ้านก็ไฟไหม้ ทำให้ลุงกับป้าตาย ตำรวจสงสัยว่าฮั่นเป็นคนวางเพลิง แต่โชคดีเพื่อนสนิทของพ่อช่วยให้ฮั่นพ้นข้อกล่าวหาน่ะ" ฮั่นกล่าว น้ำเสียงแฝงความเจ็บปวด

"แล้วฮั่น....ใช่คนวางเพลิงรึเปล่า" กงจวิ้นถามเสียงแผ่ว 

จางเจ๋อฮั่นหันมายิ้มให้เขาก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงปกติ

"ไม่ใช่ครับ" เขาตอบ กงจวิ้นพยายามฟังจากน้ำเสียง ซึ่งมันดูหนักแน่น และดูเหมือนว่าเขาจะพูดความจริง

"อ่าว...งั้นทำไมไฟถึงได้....." เขายังคงสงสัย

"คนที่วางเพลิงน่ะ คือพี่จางเหมยลี่" เขาแทบช็อคเมื่อรู้เรื่องนั้นจากปากคนตัวเล็ก

"อะ..อะไรนะ เป็นไปได้ไง พี่ลี่เนี่ยนะ..." หญิงสาวที่ทั้งเรียบร้อย ใจดี บอบบางขนาดนั้นเนี่ยนะ..จะทำเรื่องแบบนั้นได้

"อื้อ ที่พี่ลี่ต้องทำแบบนั้น เพราะว่า...." ฮั่นเงียบก่อนจะเริ่มสะอื้นเล็กน้อนน้อย เหมือนคนจะร้องไห้ แต่ก็ไม่มีมีน้ำตา

"เพราะว่าอะไรหรอ?" กงจวิ้นถามกลับเพราะความอยากรู้

ร่างบางกุมมือคนข้างๆแน่น ราวกับกลัวเขาจะหนีไปหากฟังรื่องที่เขาจะเล่าจบ เขาหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเค้นเสียงออกมา เล่าทุกอย่างให้กงจวิ้นฟัง

"เพราะผมฆ่าปาดคอทั้งลุงและป้า ตายคาห้องนอนในคืนนั้น..... พี่ลี่ตื่นมาเจอ จึงวางเพลิงทำลายหลักฐานทั้งหมดให้ผมพ้นผิด" ร่างสูงถึงกับชาไปทั้งหน้าพอได้รู้ความจริง เขามองคนตรงหน้าที่เล่าให้ฟัง แม้น้ำเสียงจะฟังดูว่าเขาเจ็บปวดจากเหตุการณ์นั้น แต่ว่าก็ไม่ได้เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น จางเจ๋อฮั่นยังคงเล่าต่อ

"ผมไม่ได้เสียใจหรอกนะ เพราะลุงกับป้าสมควรโดนแล้ว ลุงพยายามข่มขืนพี่ลี่หลายครั้ง ป้าแทนที่จะสงสารกลับหาว่าพี่ลี่อ่อยลุง จนขายพี่ลี่ให้กับซ่องในสิงคโปร์ ผมทนไม่ไหวอีกต่อไป พี่ลี่และผมผิดอะไรหรอ ถึงต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ เมื่อนรกไม่มาเอาพวกมันไป ผมเลยส่งพวกมันสองคนไปลงนรกด้วยมือของผมเองไงล่ะ" เจ๋อฮั่นเล่า น้ำใสๆเริ่มไหลออกมาไม่ขาดสาย บ่งบอกได้ว่าลึกๆ เขาเองก็คงเสียใจไม่น้อย แต่ต้องทำเพื่อรักษาคนสำคัญ คนทุกคนล้วนมีกลไลการป้องกันตัว เพื่อความอยู่รอดของแต่ละตัวบุคคลแตกต่างกันออกไป

"ฮั่น......" เขาเอ่ยเรียกชื่อร่างบางเบา ก่อนจะโอบคนข้างๆเอาไว้ แม้เขาจะตกใจกับสิ่งที่ร่างบางทำแต่เขาก็เข้าใจ ว่าคนเราเลือกไม่ได้ที่จะเดินเส้นทางไหน เพราะในบางเส้นทาง มันก็ไม่ได้มีทางแยกให้เราเลือกเดินเสมอไป เราเพียงต้องเดินไปตามทางที่มีให้ และอยู่รอดให้ได้

"จวิ้น...รู้แบบนี้แล้ว รังเกียจฮั่นมั้ยครับ" จางเจ๋อฮั่นถาม น้ำเสียงราวกับเด็ก

"ไม่ครับ ผมเข้าใจฮั่นนะ ไม่เป็นไรนะ มันผ่านมาแล้ว....." เขาปลอบประโลม

"เรื่องนี้ ไม่มีใครรู้ นอกจากผมกับพี่ลี่ แล้วก็จวิ้นจวิ้นนะ " จางเจ๋อฮั่นอธิบาย โดยบอกความหายเป็นนัยๆว่า จวิ้นคือคนสำคัญที่เขายอมให้รับรู้เรื่องส่วนตัวมากที่สุด

เขากอดปลอบร่าง จนหยุดสะอื้น...

.

.

.

.

โครกกกก (เสียงท้องของคนตัวเล็กร้องออกมา ทำลายบรรยากาศที่กำลังเศร้า)

"หิวใช่มั้ย" กงจวิ้นถามขึ้น หลังจากที่พวกเขานั่งกอดกันเงียบๆ นานหลายนาทีแล้วก็มีเสียงท้องร้อง

"อืม นิดนึง" ร่างบางยิ้มเขินๆ เกาหัวแกรกๆด้วยความอาย

"เดี๋ยวผมทำอะไรให้กินนะ" พูดจบก็เดินเข้าครัวไปทำกับข้าว ร่างบางก็เดินตามไปรอที่โต๊ะอาหาร

 

ทั้งสองนั่งกินข้าวกันไป มองหน้ากันไป ต่างคนต่างไม่พูดอะไร ได้แต่ยิ้มให้กัน ราวกับวัยรุ่นที่พึ่งจีบกันแล้วนัดเจอเดตแรก บทสนทนานั้นเงียบจนคนตัวสูงคิดว่า เขาต้องเริ่มเข้าเรื่องได้สักที

"ฮั่น" เขาเรียกร่างบางด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

"ครับ?"

"เหนื่อยมั้ย กับข่าวฉาวในแต่ละวัน แถมตอนนี้ยังต่อมานั่งต่อสู้กับทางรัฐบาลจีนอีกใช่มั้ย เรื่องความสัมพันธ์ของเรา ถ้าเป็นอย่างงี้ต่อไปคงลำบากแย่เลย เพราะทางรบ.จีน คงไม่ยอมให้ดาราชายแนวหน้าแบบพวกเราคบกันได้อย่างเปิดเผยหรอก จริงมั้ย?" เขาอธิบายให้ร่างบางได้เข้าใจถึงปัญหาที่กำลังเผชิญในตอนนี้

"อื้อ ก็เหนื่อยแหละ แต่เราก็ต้องอดทนนะ จวิ้นไม่ต้องห่วงนะ พี่ลี่กับฮั่น เรามีญาติผู้ใหญ่คอยเอ็นดูอยู่เยอะ เขาจะช่วยเราได้ จวิ้นอย่าคิดมากเลย ยังไงพวกเราต้องกลับไปรับงานปกติได้แน่นอน" จางเจ๋อฮั่นพูดปลอบเจ้าหมาน้อยของเขา 

"แต่ถึงกลับไปรับงานได้ ไม่ต้องพูดถึงซีรี่ยส์หรอก แค่งานอีเว้นคู่กัน เราก็คงรับงานคู่ไม่ได้ แบบนั้นไม่ลำบากแย่หรอ?" กงจวิ้นถาม

"เอาน่า เดี๋ยวลองให้พี่ลี่คุยกับผู้ใหญ่ดูนะครับ" จางเจ๋อฮั่นพูดและยื่นมือไปลูบหัวกงจวิ้นอย่างเอ็นดู ทว่ามือนั้นถูกเขามือรวบ คว้าเอาไว้ กงจวิ้นกระชับมือของคนตรงหน้าเอาไว้แน่นก่อนจะเอื้อนเอ่ยคำที่ทำให้ร่างบางรู้สึกหนักอึ้งในหัวใจออกมา

"พวกเรา...ลาออกจากวงการกันเถอะนะ"

.

.

.

.

.

.

.

 

ไรท์เองจ้า คราวนี้ พี่ฮั่นเขาจะเลือกอะไรน๊าาาาาาา

ขอหัวใจ เป็นกำลังให้หน่อยนะคะ ไรท์พยายามลงให้ทุกวัน เพราะไม่อยากทิ้งไว้นาน กลัวคนลืมพล๊อตเรื่อง เพราะถ้าเว้นเวลานานแล้วกลับมาอ่านเราจะลืม ไรท์เป็นบ่อยมาก ไปอ่านบางนิยายแฟนฟิค ที่อาทิตย์นึงเขาจะอัพที ไรท์ลืมไปแล้วว่านายเอกชื่ออะไร แฮร่ (อ่านหลายเรื่องจนตีกัน) เข้าใจบางคนที่ดองไว้อยู่นะ อารมณ์แบบพอมีไฟก็แต่ง แต่ไฟพวกนี้มันมอดเร็วนะคะ รีดเดอร์โปรดเข้าใจ ถถถถถ

ปล. ไรท์แต่งให้จนจบแล้วน้า แต่ขอกั๊กไว้ก่อน ค่อยๆทยอยลง(เผื่อจะใส่อะไรเพิ่มเติมลงไป) มีทั้งหมด 23 ตอนนะคะ

 

ถึงนักอ่านที่รัก
×

Capture Chat Story

แชร์
ทวีต Line it

ปักหมุด

[ชื่อคนเขียน] -
[วันที่สร้างคอมเม้น]
[ชื่อคนเขียน] -
[วันที่สร้างคอมเม้น]