นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้แต่งไม่ได้อยู่ตามหลักของความเป็นจริงไม่เกี่ยวข้องใดใดกับบุคคลในภาพทั้งสิ้นและไม่ได้มีเจตนาจะทำให้ศิลปินเสียหาย
⚠️ มีคำหยาบจำนวนมาก⚠️
⚠️โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน⚠️
Enjoy Reading 🔫
___________________
06
เหตุการณ์ชุลมุนเกิดขึ้นหลังจากที่มีการพูดคุยกันของรุ่นพี่ปีสามของทั้งสองคณะที่บาดหมางกันมาอยู่ก่อนแล้ว แต่ละฝ่ายต่างยกพวกมากันหลายสิบคนก่อนจะเกิดการพูดจาไม่เข้าหูและเริ่มปะทะใส่กันในที่สุดชนิดที่ว่าไม่มีการใส่ชุดป้องกันไม่ใช้ตัวแสดงแทนและเล่นจริงเจ็บจริง ธารผู้ที่พกความแค้นไว้เต็มอกล็อกเป้าหมายไว้เรียบร้อยแล้วว่าจะต้องเป็นเด็กสถาปัตย์ที่ชื่อว่ากานต์เท่านั้นที่จะได้รับประทานหมัดและเท้าจากเขาซึ่งไม่ต่างจากกานต์ที่คิดในแบบเดียวกัน
ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!
เสียงหมัดหนักกระทบเนื้อดังไปทั่วทั้งพื้นที่บริเวณลานกว้างของคณะสถาปัตยกรรมซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นสังเวียนเดือดไปซะแล้วนักศึกษาจากสองคณะกำลังต่อสู้กันโดยมีศักดิ์ศรีของคณะเป็นเดิมพัน ผู้คนที่ไม่อยากโดนลูกหลงต่างหนีเอาตัวรอดกันจ้าละหวั่นซึ่งนับรวมเด็กวิศวะกับสถาปัตย์อย่างเอชและคิวด้วยที่ไม่ต้องการการสู้รบแต่พวกเขาต้องการสันติ
ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!
ท่ามกลางเสียงโวยวายของพูดคนเสียงด่าท้อหยาบคายรวมไปถึงเสียงร้องโอดโอยด้วยความเจ็บกลับมีสองชายหนุ่มยืนจ้องหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร ศึกครั้งนี้มันเกิดขึ้นมาจากแม่ขนตาสวยของธารและคนที่หล่อทุกมุมของกานต์
“ใครที่มันปากดีใส่กูเมื่อวาน มาดิ”
เริ่มจากวาจาปะทะกันก่อน ธารกอดออกมองร่างบางตรงหน้าที่ยังคงขนตายาวสวยแม้กระทั่งในช่วงชุลมุน อีกฝ่ายก็ดูจะเอาเรื่องไม่แพ้กันว่าต่อกลับมา
“แล้วมึงจะทำไม อย่ามัวแต่เห่าแล้วเข้ามาเลย”
“คนที่เห่ามันมึงมากกว่า ไอ้หมากระเป๋า”
“กระเป๋าแม่มึงสิ ตัวกูเล็กกว่าแต่กูต่อยมึงได้แล้วกัน” ปากมันแซ่บจังเว้ย
“หึ ถ้าแพ้กูมึงก็อย่าร้องไห้ก็แล้วกัน”
“มึงมากกว่ามั้งที่ต้องร้องไห้”
คิ้วโก่งสวยยกขึ้นยักคิ้วส่งไปให้กับคนตรงหน้าอย่างกวนๆ นั่นทำให้ร่างสูงของธารทนไม่ไหวต้องปล่อยหมัดขวาทรงพลังเข้าไปทักทายโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว แต่คนตัวเล็กกว่านั้นกลับหลบได้
“กระจอก” แถมยังยิ้มเยาะเย้ยเขาอีกแต่ก็คงจะหลบไม่ได้ทุกหมัดหรอก
“เฮ้ย นั่นอะไรวะ”
ธารชี้ไปที่สิ่งหนึ่งที่อยู่ด้านหลังกานต์และด้วยความอยากรู้จึงหันไปมองโดยลืมนึกไปว่ามันเป็นกลลวงตื้นๆ ที่ศัตรูใช้
ผัวะ! ปัก!
“อุก!”
บาดแผลแรกเกิดขึ้นที่บริเวณแก้มเนียนข้างซ้ายของกานต์ที่ถูกหมัดขวาทรงพลังของธารต่อยเข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัวและถูกท่อนขาแกร่งเตะเข้าที่ข้างลำตัวจนต้องยืนเซด้วยความเจ็บทั้งที่ใบหน้าและลำตัว
“ถ้ากระจอกก็อย่าปากดี”
“มึงต่างหากที่กระจอก ถ้าทำได้แค่นี้ก็ไม่ต้องอวด”
เมื่อปากแซ่บๆ ของกานต์พูดจบลงการปะทะแบบไม่มีใครยอมใครจึงเริ่มขึ้น หมัดหนักถูกปล่อยใส่กันไม่ยั้งมีทั้งโดนบ้างไม่โดนบ้างแต่ใดใดคือปากแตกคิ้วแตกตามๆ กันไป จนกระทั่ง...
“ตำรวจ!”
เสียงตะโกนหนึ่งดังขึ้นท่ามกลางเหตุการณ์ชุลมุนที่เกิดขึ้นและยิ่งวุ่นวายไปยิ่งกว่าเมื่อตำรวจเข้ามาขัดการทะเลาะวิวาทครั้งใหญ่และไล่จับผู้ก่อเหตุทั้งหมดนั่นจึงทำให้นักศึกษาเกเรทุกคนต่างวิ่งหนีกันไปคนละทิศคนละทาง
“โอ๊ย!”
และเสียงร้องด้วยความเจ็บเกิดขึ้นจากกานต์ที่ถูกผู้คนที่ต่างหนีตายวิ่งเข้าใส่จนล้มหงายหลังบวกกับอาการบอบช้ำตามตัวทำให้รู้สึกเจ็บมากเป็นพิเศษ ธารมองไปรอบๆ ตัวเห็นชุดตำรวจกำลังจะเดินมาทางเขาจึงคิดหาทางว่าจะหนีไปที่ไหนดีแต่ฝ่าเท้าเจ้ากรรมดันก้าวไม่ออก ธารเกิดสงสัยว่าเหตุใดร่างกายถึงไม่ยอมทำตามที่สมองสั่งแต่พอหันไปมองคนที่ล้มนอนอยู่บนพื้นความรู้สึกกลับสั่งให้เขาต้องเข้าไปช่วยและต้องรีบช่วยด้วยก่อนที่พ่อมันจะมาพาไปนอนในห้องตาราง ไม่รอช้าชายหนุ่มผู้หล่อทุกมุมตรงเข้าไปช่วยแม่ขนตาสวยที่ยังพยศต่อเขาอยู่
“มาจับกูทำเหี้ยอะไร ปล่อยกู” เพียงแค่ธารจับแขนความพยศก็เริ่มออกฤทธิ์
“กูปล่อยมึงได้นะถ้ามึงอยากให้พ่อมึงมาจับไปนอนในคุก”
นี่ไม่ใช่คำขู่กานต์รู้ดีแต่มันคือเรื่องจริงขืนยังช้ากว่านี้คงได้โดนตำรวจจับจริงๆ คิดได้แบบนั้นกานต์จึงตัดสินใจรับความช่วยเหลือจากอริเอาไว้ยอมให้อีกฝ่ายจับแขนเพื่อพยุงตัวให้ลุกและก็พบว่ามีอาการเจ็บแปลบที่ขาข้างซ้ายแต่ยังพอทนได้ เห็นแบบนั้นธารจึงพยุงร่างเล็กที่เลิกพยศไปแล้วไว้ก่อนจะพาวิ่งหาที่หลบแต่เพราะที่นี่ไม่ใช่วิศวะเขาจึงไม่ชินกับพื้นที่
“นี่คณะมึงอะรีบบอกที่หลบมาดิ”
เลยต้องให้ฝั่งเจ้าถิ่นช่วยเพราะวิ่งหนีกันมาจนถึงสุดเขตคณะซึ่งเป็นบริเวณที่เก็บซากของเก่าจากการศึกษา มีล็อกเกอร์สภาพเก่าๆ ตั้งเรียงรายอยู่หลายสิบตู้และก็มีหลายคนที่กำลังหนีการจับกุมเข้ามาหลบในนี้ด้วยเช่นกัน กานต์จึงเลือกที่นี่ในการหลบซ่อนจากตำรวจเพราะถ้าโดนจับอย่างน้อยก็ยังมีอีกหลายตู้ให้ลุ้นก่อนหน้า
“ตู้ล็อกเกอร์ข้างหน้า”
“ก็เหี้ยละ ที่รกขนาดนี้ตำรวจจะไม่สงสัยเลยมั้ง”
“หุบปากแล้วมึงเข้าไป”
เมื่อเห็นว่ามีตู้ที่ยังว่างกานต์จึงตรงเข้าไปเปิดประตูล็อกเกอร์ก่อนจะดันร่างหนาของอริให้เข้าไปหลบอยู่ภายในและดันตัวเองตามเข้าไปอยู่ภายในตู้ที่แสนคับแคบแต่สามารถแอบได้ถึงสองคน เพราะความแคบทำให้ลำตัวของทั้งสองต้องอยู่แนบกันรวมไปถึงใบหน้าก็อยู่ในระยะประชิด กานต์ไม่อยากจ้องใบหน้าหล่อของอริตรงหน้านานไปมากกว่านี้เพราะพาลจะโมโหเอาได้จึงหลีกเลี่ยงการมองหน้าด้วยการกดหน้าลงกับแผ่นอกกว้างของอริตรงหน้าไว้
“อย่ามาทำเป็นสำออยซบอกกู ไอ้เหี้ยที่ปากดีเมื่อกี้ไปไหน” แต่กลับได้ประโยคชวนให้เท้ากระตุกกลับมา
“ก็ที่มันแคบไอ้เหี้ย แล้วมึงก็หุบปากไปก่อนที่พ่อมึงจะมาลากมึงไปนอนคุก”
“ถ้ากูโดนจับมึงก็ต้องโดนด้วย”
ปัง!
เสียงเปิดประตูตู้ล็อกเกอร์หนึ่งดังขึ้นก่อนที่จะมีเสียงโหวกเหวกโวยวายดังตามมาถึงแม้จะไม่มองเห็นแต่นั่นก็บ่งบอกให้รู้ว่ามีคนถูกเจอตัวและกำลังจะถูกตำรวจจับนั่นจึงทำให้คนที่ไม่ถูกกันทั้งสองต้องสงบศึกเอาไว้ชั่วคราวรอให้หนีตำรวจพ้นก่อน
ปัง!
“ตรงนี้มีอีกครับ”
เสียงตะโกนของตำรวจนายหนึ่งพร้อมกับเปิดประตูตู้ล็อกเกอร์และจับคนที่อยู่ภายในเอาไว้ดังขึ้นอีกธารและกานต์จึงต้องเงียบให้ได้มากที่สุด ผ่านเหตุการณ์ระทึกไปสักพักผู้คนทั่วทั้งบริเวณนั้นถูกจับไปจนแทบจะเกือบหมดคนทั้งสองก็ยังคงยืนเกร็งอยู่ภายในตู้ล็อกเกอร์ จนจู่ๆ ก็ได้ยินเสียงฝ่าเท้ากำลังเดินเข้ามาใกล้กันจุดที่คนทั้งสองยืนอยู่มากขึ้นเรื่อยๆ ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนธารเผลอดึงร่างเล็กเข้ามาแนบชิดมากขึ้นเพราะกลัวว่าจะถูกจับได้
“จ่าครับน่าจะจับมาครบแล้วครับ”
จู่ๆ เสียงสวรรค์ก็มาโปรดคนทั้งสอง มีเสียงหนึ่งเอ่ยห้ามนายตำรวจด้านนอกก่อนที่จะมาจุดที่พวกเขายืนอยู่เอาไว้ ธารและกานต์ต่างลุ้นระทึกว่าเหตุการณ์จะเป็นยังไงต่อไป
“เดี๋ยวผมเดินกลับไป”
เหมือนกับแต้มบุญของทั้งสองยังพอจะมีเหลืออยู่จึงรอดไปอย่างหวุดหวิด เสียงเท้าค่อยๆ เดินห่างออกไปเรื่อยๆ จนเงียบในที่สุด คนทั้งสองที่กำลังหลบหนีต่างถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่พร้อมกันด้วยความกดดัน
“ปล่อย”
พักยกได้ไม่นานศึกครั้งใหม่ก็ต้องเกิดขึ้น กานต์เอ่ยเสียงแข็งเพราะมีมือหนากำลังจับเอวของเขาไว้แน่นแต่แทนที่อีกฝ่ายจะปล่อยกลับออกแรงบีบมากกว่าเดิม
“กูช่วยมึงไว้นะ ขอบคุณสักคำก็ไม่มีแถมยังมาปากดีใส่กูอีก”
“กูไม่ได้ขอนี่ มึงอยากมาช่วยกูเอง”
จบศึกก็กลับมาพยศต่อแต่เป็นการพยศที่ธารมองมันเปลี่ยนไป แทนที่จะรู้สึกโกรธแค้นอีกฝ่ายธารกลับนึกตลกขึ้นมา ท่าทางอย่างเอาเรื่องแต่ขนตากลับยาวสวยแบบนี้มองยังไงก็โคตรดื้อ
“หึ ปากดี” ธารยิ้มมุมปากส่งไปให้ก่อนจะพูดประโยคถัดไป
“แบบนี้มันต้องเย็ดสั่งสอน”
“ไอ้เหี้ยธาร!” ได้ผล อีกฝ่ายทำท่าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟกับคำพูดกวนประสาทของเขา เห็นแบบนี้ธารยิ่งชอบใจ
“ต่อยมึงไปก็ไม่หายแค้นว่ะ สงสัยต้องกลับไปร่วมเตียงกันเหมือนเดิม”
“หุบปากไปไอ้ควาย!”
นั่นทำให้กานต์สุดจะทนถึงจะมีอาการเจ็บที่ขาแต่ก็ออกแรงผลักอกแกร่งของคู่อริจนประตูตู้ล็อกเกอร์เปิดออก กานต์ยกนิ้วกลางขึ้นส่งมอบให้อีกฝ่ายพร้อมกับคำอวยพรให้ธารโชคดี
“ไปตายซะไอ้เหี้ย!”
“มึงพูดแบบนี้กูยิ่งจะตายยากนะ อยากอยู่กับกูก็บอก”
“อยู่พ่อมึงสิ! ฝากไว้ก่อนเถอะมึง!”
“ไม่รับฝากว่ะ รีบมาเอาคืนนะ”
กวนประสาทชนิดที่ถ้ากานต์ยังฝืนต่อปากต่อคำอยู่คงจะต้องไปพบจิตแพทย์เป็นแน่
ร่างเล็กจึงเดินหนีร่างสูงที่กำลังยกยิ้มด้วยความสนุกเพื่อไปหาเพื่อนที่หนีกันไปคนละทิศคนละทางทิ้งให้คนที่หล่อทุกมุมหาทางกลับคณะวิศวะเองและทิ้งให้คนที่หล่อทุกมุมเกิดความรู้สึกสนุกและเกิดสนใจในตัวอีกฝ่าย
TBC.✨
* * * * * * * * * * * * * * * * * * *
คุณตำหนวดตรงนี้มีคนจะต่อยกันค้าบบบบ
Capture Chat Story
“มาเป็นคนแรกที่โดเนทให้กำลังใจนักเขียนกันเถอะ”
