หายไปทั้งวัน..
เป็นอะไรหรือเปล่านะ
น้อยใจ
นี้มันคงเป็นเพียงสิ่งเดียวในตอนนี้ที่สามารถอธิบายความรู้สึกของน้ำชานั้นได้มากที่สุด เขายังคงนั่งจมปลักอยู่ที่เก้าอี้ในสวนที่ถูกจัดไว้ในตอนแรกไม่ไปไหนแม้บรรยากาศจะเริ่มปกคลุมไปด้วยความหนาวเย็นก็ตาม สายตาคู่สวยยังคงจับจ้องไปที่หน้าจอของมือถือที่ถูกวางไว้บนโต๊ะตรงหน้าเขาเพื่อหวังว่าข้อความจากอีกฝ่ายที่เขารอมาตลอดทั้งวันจะทักมาหากันบ้าง แต่ก็คงยังไร้วี่แววตอบกลับ
เขานั่งรออยู่แบบนี้ตั้งแต่กลับมาจากงานนิทรรศการที่โรงเรียนของเขาที่ได้จัดขึ้นเพื่อให้คนภายนอกได้เข้ามาเยี่ยมชมผลงานของนักเรียนในจำนวนที่จำกัดแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรกับผู้คนเหล่านั้นมากเว้นซะแต่คนที่เขาสนใจกลับหายหน้าหายตาไปอย่างลึกลับจนน้ำชานั้นเริ่มใจไม่ดี
ไม่คิดจะทักกันมาบ้างหรือไง
หายไปทั้งวันแล้วนะ
ไปอยู่ไหนนะ..
เมื่อเวลาล่วงเลยไปนานพอสมควรน้ำชาจึงตัดสินใจที่จะเดินกลับเข้าไปในบ้านเพื่อที่จะขึ้นไปนอนเป็นเพื่อนน้องชายสุดที่รักที่กำลังนอนรอเขาในห้องนอนของเขาเองโดยที่ไม่ลืมที่จะหยิบมือถือคู่ใจติดมือไปด้วยเพราะดูท่าแล้วอีกฝ่ายคงจะไม่ทักมาหาเขาตามที่เขานั้นคาดหวังไว้ซะแล้ว
คงจะไม่ทักมาแล้วสินะ
"น้ำชาคะ"
น้ำเสียงที่คุ้นเคยทำให้ขาเรียวที่กำลังจะก้าวเดินเข้าไปในบ้านต้องหยุดชะงัก เขาจำน้ำเสียงนั้นได้เป็นอย่างดีน้ำเสียงของไอ้คนใจร้ายที่ปล่อยให้เขารอจนรู้สึกใจเสียและน้อยใจเป็นอย่างมากในวันนี้วันที่เขาตั้งใจรอให้อีกฝ่ายมาหาในช่วงเวลาสำคัญ
น้ำชาหันกลับไปมองที่ประตูรั้วก่อนที่เขานั้นจะพบกับร่างสูงที่คุ้นตาของไอ้คนขี้วอแวระดับชาติที่กำลังยืนยิ้มให้เขาโดยที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาวรวมไปถึงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขานั้นกำลังหงุดหงิดเจ้าตัวเป็นอย่างมากที่โผล่หัวมาเวลานี้
ไอ้ลีแม่ง..กูเกลียดมึง
"น้ำชาเธอเปิดประตูให้ลีหน่อยนะคะ"
"ลีขอโทษนะคะที่มาเวลานี้"
"น้ำชา.."
น้ำชายังคงนิ่งเฉยกับอีกคนจนตอนนี้กลายเป็นว่าฝั่งลีเองที่กลายเป็นฝ่ายเริ่มใจไม่ดีขึ้นมาแทนกับพฤติกรรมเหมือนแมวโกรธเจ้าของที่ไม่ยอมให้กินข้าวของคนตัวเล็กที่ยืนมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ ดูท่าแล้วเขาคงต้องเตรียมอธิบายคนตัวเล็กยาวเหยียดแน่ๆ
ซวยแล้วไงกูไอ้ลี
"น้ำชาเธอเปิดประตูให้ลีก่อนนะคะ"
"ให้ลีได้อธิบายก่อนนะคะคนดี"
"อื้อ"
คำตอบของน้ำชาทำให้ลียกยิ้มออกมาได้แม้ว่าสีหน้าและท่าทางของคนตัวเล็กนั้นจะยังไม่ค่อยดีเอาสักเท่าไหร่แต่อย่างน้อยเจ้าตัวก็ออกมาเปิดประตูให้เขานั้นได้เข้าไปหาและเข้าไปอธิบายถึงสาเหตุที่เขานั้นหายไป
หวังว่าเธอจะเข้าใจลีนะคะ
เพียงไม่นานประตูบานเล็กสำหรับคนเดินเข้าเดินออกก็ถูกเปิดออกโดยฝีมือเจ้าของบ้าน ลีที่อยู่ด้านนอกก็ไม่รอช้าที่จะก้าวเข้าไปหาน้ำชาที่ยืนรออยู่ด้วยความรวดเร็วโดยที่เขานั้นก็ไม่ลืมที่จะหันไปปิดประตูให้อีกคน ทั้งคู่พากันเดินไปยังเก้าอี้ที่ถูกจัดไว้ในสวนที่เดิมที่เก่าที่พวกเขาทั้งคู่นั้นเคยมานั่งคุยกันเมื่อนานมาแล้ว คุยกันชนิดที่ว่าทำให้คนตัวเล็กนั้นใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
"มีอะไรก็ว่ามา"
"ลีหายไปตั้งนาน"
"เธอคิดถึงลีไหมคะ"
ความเงียบก่อตัวขึ้นทันทีเมื่ออีกคนตรงหน้าของลีนั้นเลือกที่จะเงียบแทนการตอบคำถามของเขาที่ถามออกไปเมื่อสักครู่ คนตัวเล็กกำลังพยายามหนีการตอบคำถามของเขาโดยใช้ความเงียบเข้าสู้..
"..."
"งั้นเปลี่ยนเรื่องนะคะ"
เมื่อไร้ซึ่งคำตอบของคำถามลีนั้นก็เปลี่ยนเรื่องไปโดยทันทีเพราะกลัวว่าคนตัวเล็กนั้นจะไม่คุยกับเขาเพราะอึดอัดกับคำถามที่เขาถามไปเมื่อสักครู่ถึงแม้เขาจะอยากรับรู้คำตอบมากแค่ไหนก็ตามแต่เขาเองก็ไม่อยากคาดคั้นให้อีกคนพูดออกมาโดยที่ไม่เต็มใจ
"คืองี้นะคะที่ลีหายไป-"
"ใครอนุญาตให้หายไปจากกู"
"มึงมันใจร้าย"
"..."
ลีหยุดชะงักเมื่อได้ยินเข้ากับประโยคที่น้ำชานั้นพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เสียงดังฟังชัดที่จงใจเน้นให้เขารู้ว่าเจ้าตัวกำลังไม่พอใจและน้อยใจเป็นอย่างมากปะปนกัน ใบหน้าที่ดูเหมือนกับคนกำลังจะร้องไห้และไหนจะไอ้อาการเบะปากเหมือนเด็กถูกขัดใจนั่นอีกทำให้เขาคาดไม่ถึงจริงๆที่เจ้าตัวจะแสดงมุมน่ารักๆแบบนี้ออกมาให้เขาได้เห็นถึงแม้มันจะไม่ได้ใช้น้ำเสียงน่ารักก็ตาม แต่ถึงอย่างไรเขาก็จะมองว่าอีกคนน่ารักเสมอ
ปกติก็น่ารักจะตายอยู่แล้วไหม
ให้ตายเถอะยัยน้ำชา
"พอตั้งใจจะให้มาดูผลงานก็ไม่มาอะ"
"แล้วก็มาหายไปอะทักไปตั้งเยอะก็ไม่สนใจอะ"
"แล้วนี้ก็รออะรอจนไม่รู้จะรอยังไงแล้วอะ"
"ทำไมต้องมาหายจากกันไปเงียบๆด้วย"
น้ำชาร่ายยาวจนแทบไม่ได้หยุดพักหายใจเพียงเพราะต้องการระบายความรู้สึกน้อยอกน้อยใจที่มีต่ออีกคนออกไป น้ำเสียงสั่นเล็กน้อยของเขาทำให้ลีที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามคงรู้ดีว่าตอนนี้เขาเองก็แทบอยากจะร้องไห้เมื่อรู้ว่าอีกคนหายไปแบบไม่บอกไม่กล่าวกันเลยแม้แต่นิด ความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไรกันนะ..
ความรู้สึกแปลกๆตีตื้นขึ้นมาทุกคนเมื่อนึกถึงคนตัวสูงที่ได้หายหน้าหายตาไปทั้งวันความรู้สึกที่เหมือนขาดอะไรไปบางอย่างในชีวิตทำให้วันนี้นั้นน้ำชาแทบจะไม่เป็นตัวของตัวเองเพราะนึกถึงเพียงเรื่องของไอ้คนขี้วอแวจอมใจร้ายตรงหน้าเขา
"เธอขา"
"คนดีลีไม่ได้ตั้งใจหายไปนะคะ"
"โอ๋เอ๋นะคะ"
ลีเข้าไปสวมกอดน้ำชาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยความรวดเร็วเมื่อเห็นสีหน้าไม่ดีของเจ้าตัวก่อนที่เขานั้นจะลูบกลุ่มผมของอีกคนเป็นการปลอบประโลมอย่างเบามือ เมื่อคนตัวเล็กเห็นดังนั้นเจ้าตัวเองก็ไม่รอช้าสวมกอดเอวหนาของลีแน่นราวกับกลัวว่าลีนั้นจะหายไปอีกโดยที่มือเล็กก็เผลอกำเสื้อของอีกคนแน่นด้วยเช่นกัน
"เธออย่ากำเสื้อลีสิคะ"
"ไม่ฟัง!"
"เธอดื้อจัง"
"บลาๆๆๆ"
พฤติกรรมแปลกใหม่ที่ลีนั้นได้เห็นจากคนตัวเล็กทำเอาเขาหุบยิ้มแทบจะไม่ได้เพราะมันทั้งน่าเอ็นดูและน่ารักสำหรับเขามากๆจนอยากจะจับขังไว้ในห้องไม่อยากแบ่งปันความน่ารักนี้ให้ใครได้เห็นแต่ก็คงเป็นเพียงแค่ความคิดเท่านั้นหากทำจริงๆเขาอาจจะโดนคนที่อยู่ในอ้อมกอดเขาตอนนี้ฆ่าทิ้งก็เป็นได้
"เธอมีมันน่าหมั่นเขี้ยวจริงๆ"
"ส่วนมึงอะน่ารำคาญ"
"รำคาญจริงหรือเปล่าค่ะ"
"เออ"
"รำคาญก็ปล่อยกันสิคะ"
"ไม่!"
ไม่ว่าเปล่าน้ำชาสวมกอดของคนตัวสูงแน่นกว่าเดิมมิหนำซ้ำยังกำเสื้อของอีกคนแน่นไม่ต่างกันราวกับลูกแมวตัวน้อยๆที่กำลังติดเจ้าของไม่ยอมไปไหน แม้ปากจะเอ่ยออกไปว่ารำคาญมากครั้งแค่ไหนแต่ก็ไม่มีครั้งไหนเลยที่น้ำชานั้นจะนึกรำคาญอีกคนได้แบบจริงจังสักที
"เธอนี้มันน่ารักจริงๆเลยค่ะ"
"แล้วแบบนี้เธอพร้อมฟังเหตุผลที่ลีหายไปหรือยังคะ"
คนในอ้อมกอดพยักหน้าหงึกๆเป็นสัญญาณบอกว่าตอนนี้เจ้าตัวพร้อมจะรับฟังทุกอย่างที่ลีนั้นกำลังจะอธิบายแล้ว เมื่อเป็นอย่างนั้นเขาก็ไม่รอช้าที่จะอธิบายความเป็นมาทั้งหมดให้อีกคนได้รับรู้ถึงสาเหตุที่เขานั้นหายไปเป็นวัน
"ที่ลีหายไปตั้งแต่เมื่อคืนเพราะลีติดธุระค่ะ"
"มันเป็นเรื่องสำคัญที่ลีต้องรีบไปจัดการ"
"อะไร"
คนตัวเล็กเงยหน้ามองลีที่ก้มหน้ามองอยู่ก่อนแล้วในตอนแรกพร้อมกับส่งแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยอยู่เต็มอกให้กับเขาที่มองเจ้าตัวอยู่ แต่ทว่ามีหรือที่คนขี้แกล้งแบบเขานั้นจะยอมบอกสิ่งที่น้ำชาสงสัยอย่างง่ายดายโดยที่ไม่แกล้งยั่วต่อมอยากรู้อยากเห็นอีกคนให้ทำงานซะก่อน และดูท่าเขาจะทำมันสำเร็จเพราะตอนนี้คิ้วสวยของคนที่กำลังกอดเอวเขาอยู่นั้นมันเริ่มที่จะขมวดเข้าหากันเรื่อยๆ
"อย่าลีลาไอ้เวร"
"เธออยากรู้หรอคะ"
"เออ"
"งั้นอ้อนลีก่อนสิคะเดี๋ยวลีจะบอก"
ลียกยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์เล็กน้อยให้กับอีกคนที่มองหน้าเขาอยู่ เมื่อน้ำชาเห็นดังนั้นก็รีบผละกอดจากอีกคนโดยพลันทันทีที่ได้เห็นสีหน้าดูมีเลศนัยของลีและไหนจะท่าทางที่อีกคนกอดเขาแน่นกว่าเดิมนั้นอีก
"มึงอยากตายเหรอลี"
"ลีล้อเล่นค่ะคนสวยไม่เบะปากนะคะ"
น้ำชาสะบัดหน้าหนีมือหนาที่เชยคางของเขาด้วยความไม่พอใจที่โดนกวนประสาทจากอีกคนทั้งน้ำเสียงท่าทางและสีหน้าทำเอาเขาหงุดหงิดใจได้ไม่น้อยจนต้องเอ่ยปากไล่ให้กลับไปนั่งที่เก้าอี้ดังเดิม เมื่อคนตัวสูงนั้นถูกไล่แล้วก็ไม่รอช้าทำตามคำพูดของเขาอย่างง่ายดายแต่ก็ยังไม่วายที่จะเขยิบเก้าอี้ของตัวเองเข้ามาใกล้เก้าอี้ของเขาอยู่ดี
"ห่างกันไม่ได้หรือไง"
"ไม่ได้ค่ะเดี๋ยวลีขาดอากาศหายใจตาย"
"ตลก"
"แล้วนี้เธอพร้อมฟังเหตุผลที่ลีหายไปแล้วใช่ไหมคะ"
น้ำชาพยักหน้าเล็กน้อยแทนคำตอบของคำถามเมื่อสักครู่ก่อนที่เขานั้นจะตั้งใจฟังเหตุผลของอีกคนที่หายไปเป็นวันโดยที่ไม่บอกไม่กล่าวอะไรเขาเลยจนทำให้ดวงใจน้อยๆของเขาและสมองทำงานหนักกว่าเดิมเพราะเป็นห่วงอีกคนจนแทบเป็นบ้า
กูเกลียดมึงไอ้เหี้ยเอ๊ย
"ลีไปทำธุระที่โรงบาลมาค่ะทั้งวันเลย"
"ใครเป็นอะไร"
"มึงเหรอ"
"ใครทำแล้วเป็นอะไรมากหรือเปล่ามึงเจ็บตรงไหนไหม"
สีหน้าและท่าทางลุกลี้ลุกลนเพราะเป็นห่วงเขาของคนตัวเล็กนั้นทำเอาลีที่มองเจ้าตัวอยู่ลอบยิ้มเอ็นดูอย่างห้ามไม่ได้ บ่อยครั้งที่เจ้าตัวมักจะบอกกับเขาเสมอๆว่ารำคาญ เบื่อ และด่าเขาสารพัดมากมายแค่ไหนจนบางทีและบางคนนั้นอาจจะทนไม่ได้แล้วหนีหายไปตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกับอภิชาเด็กเงียบหลังห้องหรือน้ำชาเด็กน้อยน่าเอ็นดูตรงหน้าเขาตอนนี้ แต่ทว่านั้นมันไม่ใช่กับเขาแม้จะถูกอีกฝ่ายด่าว่าแค่ไหนแต่การกระทำของอีกคนนั้นมันมักตรงข้ามเสมออย่างเช่นตอนนี้
ลีต้องเอ็นดูเธอวันละกี่รอบคะเนี่ย
"ยิ้มหาพระอินทร์เหรอไอ้สัดกูถาม"
"เจ็บตรงไหนไหม"
"เธอเป็นห่วงลีเหรอคะ"
"ไม่"
ปากแข็งที่หนึ่ง
"จริงเหรอคะ"
"เออ"
"โอเคค่ะลีเชื่อ"
ลียอมจำนนเชื่อคำพูดของคนตัวเล็กแม้แท้จริงแล้วเขาจะดูออกว่าอีกคนนั้นรู้สึกยังไงก็ตาม ถ้าเจ้าตัวไม่ได้ห่วงเขาอย่างที่ปากว่าจริงๆคงไม่มีแววตาและสีหน้าที่เต็มไปด้วยความห่วงใยให้เขาหรอกจริงไหมโกหกอะไรก็โกหกได้แต่โกหกใจตัวเองเห็นทีว่าจะยาก
"จริงแล้วๆพี่สะใภ้อีกคนลีเขาคลอดลูกน่ะค่ะลีเลยต้องไปดูแลแทนพี่ชาย"
"ลีเลยไม่ได้มาเจอเธอในวันสำคัญเลยขอโทษนะคะ"
สีหน้าของลีบ่งบอกถึงความรู้สึกผิดเป็นอย่างมากที่วันนี้พลาดวันสำคัญที่สุดของอีกคนไปซะได้ วันที่เขาจะได้เห็นน้ำชาของเขานั่นได้กล่าวความเป็นมาของงานศิลปะที่เจ้าตัวตั้งใจสร้างสรรค์มันออกมาอย่างสุดฝีมือ
"กูไม่ได้อะไรมึงจะทำหน้าเป็นหมาหงอยเพื่อ"
"ลีอยากฟังเธอพูดถึงผลงานเธอในงานหนิคะ"
"วันนี้กูไม่ได้พูดอะไรสักหน่อย"
"อ้าวเธอไม่ได้พูดอะไรเลยหรอคะ"
น้ำชาพยักหน้าเล็กน้อยเป็นเครื่องยืนยันว่าวันนี้นั้นนอกจากเขาจะจัดสถานที่โชว์ผลงานจนหมดพลังไปเยอะนั้นก็แทบจะไม่ได้ทำอะไรอีกเลยนอกซะจากคอยดูพี่ขิงและพี่คินไม่ให้คาดสายตาไปไหนและก็ยืนมองคู่รักข้าวใหม่ปลามันสารภาพรักกันตรงสแตนด์ของโรงเรียนนั้นก็คือไวท์และดีแลนเพื่อนสนิทของเขาเองและลูกพี่ลูกน้องของลีที่บรรยากาศรอบข้างนั้นก็เป็นใจสุดๆ
"กูวิ่งตามพี่ขิงทั้งวันกูขอเขาเองว่าไม่อยากพูดถึงที่มาที่ไปของภาพวาด"
"ทำไมล่ะคะ"
"ไม่มีอะไร"
"โถ่เธอ"
"ว่าแต่ผลงานเธออยู่ไหนเหรอคะสายลีบอกว่าเธอเอากลับมาที่บ้านหนิ"
ลีเอ่ยถามถึงผลงานของอีกคนพร้อมกับพยายามชะโงกหน้ามองเข้าไปในตัวบ้านที่ปิดไฟไว้มืดสนิทจนแทบมองไม่เห็นอะไรหากไม่มีแสงจันทร์คอยส่องลงมาเพื่อหาผลงานของคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ทันทีที่เขาหมดหน้าที่เฝ้าพี่สะใภ้แทนพี่ชายเป็นที่เรียบร้อยเขาก็ตรงมาที่นี้ทันทีอย่างไม่รอช้าเป็นที่แรกก่อนบ้านเขาซะอีกเพื่อที่จะมาเยี่ยมชมผลงานของน้ำชาและอธิบายเรื่องทั้งหมดที่เขาหายไป นั่นจึงไม่แปลกถ้าเขาอยากจะดูผลงานของคนตัวเล็กเป็นอย่างมากขนาดนี้
"เหมือนมึงจะเห็นอะไอ้ควายมืดซะขนาดนั้น"
"ตามกูเข้ามาในบ้านนี้"
"โอเคค่ะ"
น้ำชาลุกขึ้นยืนก่อนที่เขานั้นจะหมุนตัวหันหน้าเข้าไปในตัวบ้านและก้าวเดินไปทันทีโดยที่มีคนตัวสูงเดินตามไปติดๆไม่ห่างไปไหน
จู่ๆลีก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาดื้อๆอย่างบอกไม่ถูกเมื่อเดินเข้าไปในตัวบ้านเป็นที่เรียบร้อย คนตัวเล็กยังคงทำหน้าที่เดินนำหน้าเขาไปเรื่อยๆจนพบกับประตูห้องขนาดใหญ่อยู่ชั้นล่างตรงด้านล่างของบันไดที่ขึ้นไปยังชั้นสองของตัวบ้าน ลียืนมองคนตัวเล็กไขประตูเข้าไปด้วยกุญแจที่พกติดตัวมาด้วยตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ก่อนที่เจ้าตัวนั้นจะเปิดประตูให้เขาได้เห็นภายในของห้องแห่งนี้ที่ดูเหมือนจะเป็นห้องเก็บผลงานของเจ้าตัวโดยเฉพาะเพราะทั้งห้องนั้นมันเต็มไปด้วยผลงานภาพวาดของเจ้าตัวเต็มไปหมด
"ลีพึ่งรู้ว่าเธอวาดภาพเยอะมากขนาดนี้"
"ก็กูวาดตั้งแต่ประถมหนิ"
ลียังคงสอดส่องเดินสำรวจทุกซอกทุกมุมของภายในห้องไปมาด้วยความตื่นเต้น ภาพวาดที่ถูกประดับไว้บนผนังมากมายที่อยู่ในกรอบสีทองนั้นทำให้ห้องแห่งนี้ราวกับพิพิธภัณฑ์ศิลปะมิหนำซ้ำผลงานทุกชิ้นยังทำทีเหมือนถูกจัดโชว์เรียงสวยกันเป็นแถวและเป็นระเบียบไม่รกหูรกตาน่าชวนชมแม้จะมีบางส่วนถูกวางไว้ที่พื้นก็ตามแต่มันกลับดูมีความสวยงามอย่างแปลกประหลาด ลีเหลือบมองไปยังส่วนตัวตู้หลังใหญ่ที่อยู่ด้านในสุดของห้องนั้นก่อนที่เขานั้นจะละสายตาไม่ได้กับภาพตรงหน้ายิ่งดูมีเสน่ห์กับผลงานเล็กๆที่ถูกใส่กรอบตั้งเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ ดูท่าแล้วที่นี่ก็คงไม่ต่างอะไรจากพิพิธภัณฑ์ศิลปะขนาดเล็กเลยซะด้วยซ้ำ
"มองอะไรขนาดนั้น"
"มันสวยมากเลยค่ะลีชอบมากเลยค่ะ"
"งั้นเหรอ"
"ใช่แล้วค่ะ"
"เธอคงตั้งใจทำมันมากเลยใช่ไหมคะ"
น้ำชาพยักหน้าตอบรับเล็กน้อยก่อนที่เจ้าตัวนั้นจะเดินไปยังภาพวาดที่ถูกปิดไว้ด้วยผ้าสีขาวโดยที่มีลีนั้นเดินตามไปไม่ห่าง
"อยากดูยัง"
"ยังค่ะ"
"..."
"..ทำไม"
"ลีมีเรื่องจะบอกเธอก่อนค่ะ"
"อะไร"
คนตัวสูงตรงหน้าน้ำชาเอื้อมมือมาจับมือเขาไปกุมโดยที่เขานั้นยังไม่ทันตั้งตัวจนทำให้เกิดอาการงุนงงกับการกระทำของอีกคน สีหน้าที่เริ่มจริงจังทำเอาใจเขาเริ่มรู้สึกไม่ดีอีกครั้ง นี้คงจะไม่ได้มีเรื่องร้ายๆมาพูดกับเขาหรอกใช่ไหมเขายังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจที่จะฟังมันเลยสักนิดนะ
คงไม่มีเรื่องร้ายๆใช่ไหม
"น้ำชาคะทุกอย่างที่ลีจะบอกต่อไปนี้ลีพูดออกมาจากใจจริงของลีนะคะ"
"เธอพร้อมที่จะฟังกันแล้วใช่ไหมคะ"
แม้ภายในใจของน้ำชาจะเป็นกังวลมากแค่ไหนกับท่าทางที่ดูจริงจังมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าเขานั้นก็เลือกที่จะพยักหน้าออกไปเพื่อรอฟังเรื่องที่คนตรงหน้าพยายามจะบอกเขา
"เธอจำได้หรือเปล่าคะว่าลีทักเธอครั้งแรกลีก็โดนเธอบล็อกเลยเพราะว่ากวนตีนเธอ"
"ตอนแรกลีก็ไม่ได้นึกหรอกนะคะว่าตัวเองจะชอบเธอ"
"แต่ลีก็ชอบเธอไปแล้วหนิคะจริงไหม"
"ลีก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรที่ทำให้ลีชอบเธอได้มากขนาดนี้"
น้ำชายังคงยืนมองอีกคนนิ่งไม่ละสายตาและความสนใจไปทางไหนเพราะตอนนี้นั้นสิ่งเดียวที่เขาจะให้สนใจนั้นก็คือใบหน้าของคนตรงหน้าเฉกเช่นกับลีที่สนใจเพียงใบหน้าน่ารักของน้ำชาในตอนนี้ตอนที่เขากำลังจะสารภาพความในใจกับคนตัวเล็ก
"จนวันนึงลีก็รู้สึกกับเธอมากกว่าแค่อยากรู้จักเธอ"
"..."
"ทุกคนเคยบอกกับลีว่าเธอเป็นคนไม่ดีสารพัดมากมาย"
"แต่รู้อะไรไหมคะลีไม่เคยสนใจคำพูดของใครเลยนอกจากเธอ"
ลียังคงจ้องมองไปที่ใบหน้าจิ้มลิ้มของอีกคนที่ตอนนี้มันเริ่มขึ้นแดงจางๆในขณะที่เขานั้นกำลังตั้งใจพูดประโยคที่ดูเหมือนเป็นประโยคสารภาพรักให้กับคนตัวเล็กได้ฟัง
"แค่นี้เธอก็เขินแล้วเหรอคะ"
"มั่วนิ่ม"
"อีกอย่างนะคะเธอจำได้ไหมว่าลีทักเธอครั้งแรกตอนกี่โมง"
คนตัวเล็กเลือกที่จะส่ายหน้าแทนคำตอบเพราะเจ้าตัวเองก็ไม่รู้และไม่เคยจำได้เลยสักครั้งว่าใครทักมาเวลาไหนบ้างเพราะเขาเองก็คงจะไม่มีเวลาว่างมานั่งทำอะไรแบบนั้น
"ลีทักเธอครั้งแรกตอนสามทุ่มลีรอเวลาให้เวลาเดินไปเรื่อยๆจนถึงสามทุ่มลีถึงจะทักเธอ"
"ทำไม"
"เพราะเวลาสามทุ่มมันเป็นช่วงสำคัญของลีตลอดเลยไงล่ะคะ"
"ลีก็เลยอยากให้การได้รู้จักเธอครั้งแรกเป็นช่วงเวลาสำคัญของลีบ้าง"
ใบหน้าของน้ำชารู้สึกร้อนผ่าวทันทีอย่างห้ามไม่ได้เมื่อได้ยินประโยคคล้ายประโยคบอกรักแบบทางอ้อมของอีกคนที่บอกกับเขา หัวใจของเขาเต้นแรงมากยิ่งขึ้นจนกลัวว่าคนตรงหน้านั้นจะได้ยินเสียงของมันเอาซะก่อน ป่านนี้ทั้งหน้าและหูของเขาคงจะแดงเป็นลูกมะเขือเทศแน่ๆ
พูดอะไรของมึงวะแม่ง
"เธอหน้าแดงกว่าเดิมอีกนะคะเขินเหรอ"
"พ่อมึง"
"น้ำชาคะ"
"อะไร"
20 : 58
"เธอรู้ไหมคะว่าลีไม่เคยอยากให้ใครมาว่าเธอเสียๆหายๆเลยนะคะ"
"ทุกครั้งที่พวกนั้นมันแกล้งเธอลีอยากฆ่าพวกมันทิ้งมากเลยนะคะ"
"ทุกครั้งที่ลีเห็นเธอร้องไห้เธอรู้ไหมคะว่าข้างในลีมันร้องไปพร้อมกับเธอเลย"
20 :59
"ลีไม่ชอบเลยสักครั้งที่เธอต้องมีน้ำตา"
"ต่อไปนี้เธออย่ามีน้ำตาอีกเลยนะคะคนดี"
"และต่อไปนี้ให้ลีได้เป็นคนดูแลเธอไปตลอดเลยนะคะ"
21 : 00
"เป็นแฟนกับลีนะคะ"
ราวกับโลกทั้งใบของน้ำชาหยุดนิ่งลง ความรู้สึกมากมายถูกเข้ามาแทนที่โดยที่เขาเองก็ไม่เข้าใจกับการที่ถูกขอเป็นแฟนครั้งแรกในชีวิตเพราะที่ผ่านมาเขาไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้เลยสักนิด แต่ทว่าตอนนี้นั้นความรู้สึกแปลกๆมันกลับก่อตัวขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ หัวใจของเขานั้นเต้นแรงยิ่งกว่าเดิมจนเหมือนกับว่ามันจะหลุดออกมาได้ถ้าหากอีกคนได้ยินเสียงหัวใจเขาตอนนี้มันคงจะหน้าอายเอามากๆที่เขาพยายามจะเก็บความรู้สึกทั้งหมดแต่ก็เก็บไว้ไม่อยู่เพราะคนตรงหน้าของเขานั้นคือข้อยกเว้นของทุกอย่าง
แม่ครับชาทำตัวไม่ถูกครับ
ฮือออออออออออ
"ว่าไงคะคนดี"
"ขอเวลานอกอย่าพึ่ง"
"ฮือออออออออออ"
"โถ่เธอ"
ลีดึงร่างของคนขี้งอแงมาสวมกอดไว้เมื่อเจ้าตัวเริ่มทำตัวไม่ถูก เขาเองก็พอจะรู้อยู่บ้างว่าคนตัวเล็กในอ้อมกอดเนี่ยไม่เคยมีแฟนมาก่อน เลยอาจจะทำให้การขอเป็นแฟนของเขาครั้งนี้นั้นทำให้เจ้าตัวทำตัวไม่ถูกจนเลือกที่จะงอแงออกมา
น่ารัก
น่ารักเต็มไปหมด
"งั้นเอาแบบนี้นะคะถ้าเธอตกลงเธอพยักหน้านะ"
"โอเคไหมคะ"
"เป็นแฟนกับลีนะคะคนดี"
คนตัวเล็กในอ้อมกอดของเขานิ่งเงียบไปจนทำให้เขาเริ่มที่จะใจเสีย อย่าบอกเลยนะว่าการขอเป็นแฟนครั้งนี้ของเขาจะไม่สำเร็จไม่อย่างนั้นเขาคงต้องเสียใจกับมันมากๆแน่ๆเพราะเขาตั้งใจที่จะรักอีกคนมาตลอดแต่ถ้าอีกคนจะไม่รักเขาก็คงไม่เป็นไร..
"แงงงงงงงงงงงงงง"
"เธอเป็นอะไรคะร้องทำไม"
"ผมกูติดกระดุมเสื้อมึงอะ"
"พยักหน้าไม่ได้แล้วจะเป็นแฟนได้ไงฮือออออ"
"โอ๊ยเธอไอ้ดื้อ"
ลีสวมกอดแน่นมากยิ่งขึ้นด้วยความดีใจเป็นอย่างมากถึงนี้จะไม่ใช่การบอกตรงๆว่าตกลงปลงใจเป็นแฟนกับเขาแล้วแต่มันก็ไม่ต่างอะไรกันจริงไหมเพราะยังไงเขาก็ต้องทำทุกวิถีทางให้คนตัวเล็กตอบตกลงให้ได้อยู่ดี
กูมั่นหน้าเกินไปแล้วไอ้เหี้ย
"พอเลยเลิกกอด"
"ผลงานกูเป็นหมันแล้วมั้งลีลา"
"โอ๋เอ๋นะคะไหนๆผลงานเธอลีขอดูหน่อย"
น้ำชาผละกอดออกจากอีกคนก่อนที่เขานั้นจะหันไปให้ความสนใจกับภาพวาดที่ถูกสร้างสรรค์ออกมาหลังผ้าสีขาวที่ปิดไว้อยู่ มือเรียวเอื้อมมือไปจับชายผ้าด้วยความระมัดระวังและค่อยๆเปิดออกอย่างเบามือ
ภาพผลงานของคนตัวเล็กปรากฏตรงหน้าของลีทำเอาเขาหยุดนิ่งไปทันทีที่ได้เห็น ภาพผลงานตรงหน้าของเขามีเด็กชายคนหนึ่งที่กำลังนั่งวาดภาพอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกทานตะวันโดยที่มีเด็กชายอีกคนหนึ่งกำลังถือกล้องถ่ายภาพของเด็กชายคนนั้นเอาไว้ในช่วงเย็นที่ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนจากสีครามเป็นสีส้มอมแดงเป็นประกายสวยงาม มันเป็นภาพที่เขาเองก็คุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกับว่าภาพนี้เคยเกิดขึ้นจริงราวกับเดจาวูอีกครั้ง
"เหมือนลีจะคุ้นๆกับภาพนี้นะคะ"
"มันเคยเกิดขึ้นจริงไงมึงเลยคุ้น"
"ว่าไงนะคะ"
"ครั้งนึงมึงเคยถ่ายรูปกูตอนอยู่ในห้องศิลปะจำได้ไหม"
ลีนึกย้อนไปถึงอดีตที่ครั้งหนึ่งนั้นเขาเคยถ่ายรูปของคนตัวเล็กที่ห้องศิลปะ จะว่าไปเขาเองก็แทบจะถ่ายภาพของอีกคนทุกที่ทุกช่วงเวลาอยู่แล้วหากจะให้นึกย้อนเขาเกรงว่าเขาจะจำไม่ได้เนี่ยสิ
"มันเป็นครั้งแรกที่มึงกับกูได้คุยกันแบบต่อหน้า"
"มึงแอบถ่ายรูปกูในขณะที่กูกำลังแอบวาดรูปมึง"
"จริงๆรูปแรกที่กูวาดตอนแรกแล้วไม่ได้ส่งเข้าประกวดคือรูปมึง"
"แต่จริงๆทุกรูปที่มีมึงมันก็สำคัญกับกูหมดนั่นแหละ"
ตอนนี้คงกลายเป็นฝ่ายของลีเองที่กำลังหน้าแดงเป็นลูกมะเขือเทศทั้งใบหน้าและใบหูก็บ่งบอกได้ดีว่าเจ้าตัวนั้นกำลังเขินน้ำชาเป็นอย่างมากที่พูดอะไรแบบนั้นออกมาเหมือนกับว่าไม่ใช่เจ้าตัว ในเวอร์ชั่นปกติทำเอาลีนั้นถึงกับไปไม่เป็นเลยทีเดียว
"รู้ไหมทำกูถึงเลือกดอกทานตะวันให้อยู่ในภาพนี้"
"ทำไมคะ"
"เพราะมึงอบอุ่นเหมือนพระอาทิตย์"
"กูก็คงเหมือนทานตะวันที่ไม่เคยหันมองใครนอกจากพระอาทิตย์ของกู"
"และกูไม่เคยต้องการใครนอกจากมึงที่เป็นพระอาทิตย์ในชีวิตกู"
"คุณพระอาทิตย์ของน้ำชา"
ออกซิเจน
นี้คงเป็นสิ่งเดียวที่ลีต้องการในตอนนี้หัวใจของเขากำลังทำงานหนักกับความน่ารักไม่มีที่สิ้นสุดของคนตัวเล็กตรงหน้าให้ตายสิแค่คำที่แสนจะธรรมดาไม่คิดเลยว่าจะทำให้เขารู้สึกเหมือนหัวใจจะระเบิดออกมาได้แบบนี้ถ้าเขาต้องตายไปโปรดรับรู้ไว้ว่าฆาตกรตัวจริงคือความน่ารักของน้ำชาเป็นเหตุโดยแท้
"เธอจะเอาให้ลีตายเลยหรอคะ"
"หัวใจลีทำงานหนักกับความน่ารักเธอเหลือเกิน"
"ขี้เว่อร์"
"ลีอยากจูบเธอจัง"
"อย่ามากูต้องรีบไปหาพี่ขิงแล้ว"
"นิดนึงๆ"
"ไม่"
ก๊อกๆ
"พี่ขิงครับเปิดประตูให้พี่ชาหน่อยเร็ว"
ทันทีพี่ขิงตัวน้อยได้ยินเสียงเคาะประตูและเสียงพี่ชายดังผ่านประตูออกมาเจ้าตัวก็รีบวิ่งไปเปิดประตูให้พี่ชายทันที แต่ทว่าเด็กชายก็ต้องงุนงงเมื่อพบกับร่างของแขกที่ถูกรับเชิญมาตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ยืนอยู่ข้างๆพี่ชายของเจ้าตัวแต่ถึงอย่างนั้นความดีใจก็มีมากกว่าความงุนงงในตอนแรกพี่ขิงจึงวิ่งไปกอดแขกตัวสูงโดยทันที
"พี่ลี!"
"ว่าไงครับพี่ขิงคนเก่ง"
"พี่ลีจะมานอนกับพี่ขิงแล้วก็พี่ชาเหรอครับ"
"ใช่แล้วครับ"
"งั้นๆมานอนกันครับๆ"
เสียงเจื้อยแจ้วของพี่ขิงน้องชายตัวน้อยเอ่ยถามคนตัวสูงอย่างไม่หยุดปากแถมยังโม้เรื่องวันนี้ที่งานนิทรรศการอีกมากมายจนน้ำชาเองก็ฟังแทบจะไม่ทันกับบทสนทนาที่เปลี่ยนหัวข้อเรื่องไปมาจนเขาเองจับใจความไม่ทัน
คุยกันรู้เรื่องได้ไงวะกูงง
"พี่ลีครับ"
"ว่าไงครับพี่ขิง"
"พี่ลีไปโดนอะไรมาหรอครับทำไมพี่ลีปากแตกเหรอครับ"
"พี่โดนแมวกัดปากมาครับ"
ทันทีที่เอ่ยตอบคำถามของพี่ขิงออกไปลีก็ส่งสายตาจ้องไปยังคนตัวเล็กที่นอนมองเขากับพี่ขิงกำลังคุยกันอย่างออกรสออกชาติ เจ้าของสาเหตุที่ทำให้เขาปากแตกก็คงพ้นใครไปไม่ได้นอกซะจากคนที่นอนทำตาแป๋วมองเขาอยู่ ใบหน้าดื้อๆที่ทำเป็นไม่รู้สึกรู้สามองมายังเขาทำให้ลีนั้นอยากจะแกล้งคนตัวเล็กให้เข็ดจนไม่กล้าทำหน้าดื้อๆนั่นสักที
"คุณแมวดุเหรอครับพี่ลี"
"ที่หนึ่งเลยครับ"
"พี่แค่จูบปา-"
"เงียบไปเลย!"
คนตัวเล็กโวยวายออกมาเป็นลูกแมตื่นตูมทันทีที่รู้ทันว่าอีกคนนั้นจะพูดอะไรออกมาทำให้เขาต้องอับอายขายขี้หน้าพี่ขิงน้องชายของตัวเองและอีกอย่างเรื่องนี้พี่ขิงไม่ควรจะรับรู้ด้วยซ้ำไปพี่ขิงยังเด็กนะเว้ยไอ้บ้า
"เอ่อ.."
"พี่ขิงเรามานอนกันดีกว่านะครับพี่ชาง่วงมากเลย"
"ดูสิตาพี่ชาจะปิดแล้วพี่ขิงจะจุ๊บๆพี่ชาก่อนนอนไหมครับ"
"ได้เลยครับวันนี้พี่ขิงจะจุ๊บๆทุกคนเลย"
ทันทีที่พูดจบพี่ขิงก็มอบจุ๊บๆให้พี่ๆทั้งหลายก่อนที่เจ้าตัวนั้นจะล้มตัวนอนหลับปุ๋ยไปในผ้าห่มคั่นกลางระหว่างลีและน้ำชาอยู่แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ใช่อุปสรรคอะไรหากลีนั้นจะทำทีเป็นกอดพี่ขิงเพื่อได้กอดพี่ชายของพี่ขิงไปด้วย
"เอามือออกไป"
"ไม่ค่ะลีจะกอดเธอ"
"ไอ้ลี"
"โอ๊ยๆลีนอนดีกว่าแมวดุ"
"ฝากไว้ก่อนเถอะ"
เมื่อทะเลาะกันพอหอมปากหอมคอเปลือกตาของทั้งคู่ก็เริ่มล้าทำให้ผล็อยหลับเข้าสู่ช่วงฝันหวานไปตามๆกันโดยที่ลีนั้นยังคงนอนกอดพี่ขิงและคนตัวเล็กไม่ปล่อยในขณะที่น้ำชาเองก็กอดทั้งพี่ขิงและลีไม่ปล่อยเหมือนกัน
Talk : ฟีลเหมือนพ่อแม่ลูกไหมบ้าเปล่าแกคิดมากฮืออตอนนี้เขียนนานมากค่ะเพราะว่าติดภารกิจเยอะเหลือเกินอยากจะบ้าตายแต่ก็นะคะอีกไม่กี่ตอนก็จบแล้วนะคะทุกวันอย่าพึ่งหนีพี่ชานะคะ T-T ก็คือไขข้อสงสัยคำโปรยใต้ดิสพี่ลีแล้วนะคะว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้นแต่จริงๆก็ไม่ได้มีใครสงสัยหรอกค่ะอยากเฉลยเองแงงงงงงงง
สำหรับใครที่คาดหวังตรงสแตนด์ขอโทษจริงๆนะคะก็ตรงสแตนด์จูบกันมิได้หนิเนอะ🌚🌝
#ทูเนิร์ดลฮ.
Capture Chat Story
“มาเป็นคนแรกที่โดเนทให้กำลังใจนักเขียนกันเถอะ”

โดเนทสูงสุดของเรื่อง ทูเนิร์ด ; leehan | ||||
---|---|---|---|---|
![]() 50.00 ![]() | ![]() 50.00 ![]() | ![]() 35.00 ![]() | ![]() 30.00 ![]() |
โดเนทสูงสุดของ ตอนย่อยนี้ | ||||
---|---|---|---|---|
![]() มาโดเนทกัน | ![]() มาโดเนทกัน | ![]() มาโดเนทกัน | ![]() มาโดเนทกัน | ![]() มาโดเนทกัน |