crimson and angel
mydei
warning : war , death , depression
หลังจากที่มายเดย์มอสจากOkhemaไป y/nก็เข้าสู่สภาวะที่เกือบเรียกว่าซึมเศร้าได้เลย ไร้ความสุข ไม่ค่อยพูดค่อยจา ไม่ยอมกินอะไร จนทั้งผู้บุกเบิก ไฮยาซิน อาจารย์ทริบบี้และคนอื่นๆ ต้องพากันปลอบใจยกใหญ่ และตอนนี้ทั้งสามก็พยายามทำให้y/nยอมกินข้าวอย่างยากลำบาก
“ y/n.. กินข้าวหน่อยน้าา ”
“ นั่นสิไม่งั้น*พวกเรา*จะบังคับแล้วน้าา ! ”
“ ไม่กินเจอไม้เบสบอลแน่ ”
“ ก็มันกินไม่ลงนี่.. ไม่รู้ท่านมายเดย์มอสจะเป็นยังไงบ้างนตอนนี้ ”
“ อย่าห่วงไปเลยครับ เชื่อในตัวมายเดย์สิครับ ”
“ ท่านไฟน่อน.. ”
ร่างสูงของชายผมขาวเดินเข้ามาในห้อง เขาคือสหายคนสนิทของมายเดย์มอส ซึ่งไม่รู้ทำไมทุกครั้งที่ไฟน่อนพยายามเข้ามาคุยกับy/nมายเดย์มอสต้องคอยทำหน้าเหมือนพร้อมจะสังหารคนตรงหน้าใส่เขาอยู่ตลอด และนี่คงเป็นครั้งแรกที่ได้คุยกันแบบจริงจัง
“ เอาน่าา มายเดย์แข็งแกร่งจะตายไปเธอรู้ดีที่สุดนี่ ”
“ นั่นสินะคะ ท่านมายเดย์มอสของดิฉันแกร่งที่สุดแล้ว ”
“ ดูสิ ! y/nจังยิ้มแล้ว ! ! *พวกเรา*ชอบรอยยิ้มเธอมากเลย ! ”
“ ไม่ต้องโดนไม้เบสบอลทุบแล้วล่ะ ”
“ ทีนี้ฉันจะช่วยดูแลเธอเองนะ ”
“ ขอบคุณทุกคนมากเลยนะคะ.. รบกวนทุกคนมากแล้วดิฉันเองก็ต้องขอพักผ่อนก่อน ”
ทุกคนพยักหน้าให้และพากันบอกลาก่อนจะแยกย้ายกันไป หน้าต่างบานนั้นที่เคยมีร่างของคนสองคนยืนคุยกันตรงนั้น แต่ตอนนี้มันกลับอ้างว้าง มือเรียวเอื้อมไปหยิบกรอบรูปอันหนึ่งขึ้นมา เธอมองรูปนั้นด้วยดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความคิดถึงไร้ที่สิ้นสุด
รูปวาดของเด็กชายและเด็กหญิงวัยรุ่นสองคนกำลังยืนอยู่ข้างกันท่ามกลางหมู่ดอกไม้ ใบหน้าของทั้งสองกำลังยิ้มแย้มอย่างมีความสุข แต่หากตัดมาที่ความจริง เด็กสาวในรูปที่ตอนนี้โตมาเป็นสาวงามเจ้าของรูปวาดผู้นี้ยิ้มไม่ออกเลยแม้แต่น้อย
“ ขนาดหนีกันไปคนเดียวยังไม่เห็นยิ้มให้ดิฉันบ้างเลยนะคะท่านมายเดย์มอส… ”
เวลาผ่านไปจนตอนนี้อาการของy/nก็ดีขึ้นมาก เธอจึงได้เริ่มเข้ามาใช้เวลาร่วมกับอาจารย์ทริบบี้อยู่บ่อยครั้ง เธอเป็นแค่คนธรรมดาที่ได้รับการทอดมองจากเฟื่องฟู เธอจึงรักษาบาดแผลเล็กๆ น้อยๆ ให้แม่บ้านในวังอยู่บ่อยครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่เคยได้รับพรใดๆ จากไททันเลย
และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่เธอก็มาตามอาจารย์ทริบบี้อีกเช่นเคย ทริบบี้ก็ได้เข้ามาพูดคุยกับไฮยาซิน แต่จู่ๆ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งวิ่งเข้ามาด้วยท่าทีรีบร้อนจนผิดปกติ
“ เกิดเรื่องแล้วค่ะ ! แฮ่กๆ ที่วังศิลาเมฆา ”
“ ใจเย็นๆ นะคะ ช่วยเล่าให้ดิฉันฟังหน่อยค่ะ ”
“ เกิดเรื่องกับท่านอาเกลียแล้วค่ะ ! ! ”
ใครจะไปคิดกันว่าสาวใช้ธรรมดาที่ได้เห็นวาระสุดท้ายของท่านอาเกลียต่อหน้าต่อตา และเหตุการณ์นี้ก็นำมาซึ่งความกลหลในเมืองอย่างเลี่ยงไม่ได้ ผู้สืบสายโลหิตทองที่เหลือและผู้มาเยือนนิรนามทั้งสองก็พากันไปทำภารกู้ดาวกันทั้งหมด
ความรู้สึกโดดเดี่ยววนกลับมาอีกครั้ง เธอรู้สึกราวกับว่าเธอไม่มีที่ไป เพราะเมื่อไร้ซึ่งผู้เป็นนายก็เหมือนไร้ชีวิต และยิ่งเสียมิตรสหายไปก็แทบไม่เหลืออะไรแล้ว
ในวันก่อนที่ไพน่อนและคนอื่นๆ จะขึ้นไปหาAquila y/nได้มุ่งหน้าไปหาไพน่อนด้วยสีหน้าที่จริงจัง เธอไม่อยากให้ตัวเองรู้สึกเป็นตัวถ่วงแบบนี้อีกต่อ เธอคิดว่าอย่างน้อยเธอคงทำอะไรสักอย่างได้อย่างแน่นอน
“ ท่านไฟน่อนคะ ดิฉันมีเรื่องจะขอร้องค่ะ ”
“ ว่ามาสิy/nจัง ไม่เคยเห็นเธอเป็นแบบนี้เลยนะ ”
“ การล่าเปลวไฟมีอะไรที่ดิฉันพอจะช่วยได้มั้ยคะ ไม่อยากเป็นตัวถ่วงทึกคนอีกแล้ว ทุกคนต้องคอยมาดูแลดิฉันทั้งที่ต้องทำภารกิจไปด้วยอีก.. ”
“ เข้าใจนะ.. แต่ว่าคงไม่ได้น่ะสิ ”
“ ฮะๆ ว่าแล้วว่าคงเป็นได้แค่ตัวถ่วงทุกคน.. ”
“ ไม่ใช่หรอกนะ.. แต่ว่ามายเดย์เขากำชับก่อนไปไว้น่ะ ”
ใบหน้าสวยแสดงสีหน้างุนงงออกมาอย่างเห็นได้ชัดพร้อมกับน้ำตาที่คลอเบ้าอยู่หน่อยๆ ทำเอาเขาเองก็อดเอ็นดูไม่ได้จนอยากจะให้คู่แข่งตัวฉกาจของเขามาเห็นด้วยตาตนเอง แต่เขาก็ทำได้เพียงแสดงสีหน้าอ่อนโยน ให้เธอเพื่อไม่ให้ฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้ ใบหน้าหล่อคลี่ยิ้มออกมาบางๆ ก่อนจะ
“ เขาบอกไว้ว่า ช่วยดูแลสมบัติล้ำค่าของเขาให้หน่อยระหว่างที่เขาไม่อยู่ อย่าให้อะไรมาสร้างรอยแผลให้เธอแม้แต่ปลายเส้นผม ”
“ ประมาณนี้แหละนะ.. กำชับซะน่ากลัวเลย ”
“ ท่านมายเดย์มอส.. ”
หากย้อนเวลาไปยังวันที่มายเดย์มอสบอกลาทุกคนก่อนจะจากเมืองนี้ไป เขาก็ได้เข้าไปพูดคุยกับไฟน่อนเช่นกัน ทั้งคู่พูดคุยตามประสาเพื่อนและคู่แข่ง โดยจากครั้งนี้ก็ไม่รู้ว่าจะได้พบกันอีกเมื่อใด
แต่มายเดย์ก็ไม่ลืมที่จะฝากเรื่องสำคัญกับไฟน่อนไว้ เพราะนี่ตะเป็นคนเดียวนอกจากสาวใช้คนสนิทที่จะรู้ความลับของเขาได้
“ จุดอ่อนของข้ามีสองอย่าง มันคือตรงกระดูกสันหลังข้อที่สิบ ”
“ เห้อะ.. แล้วอีกอย่างล่ะ ? ”
ดวงตาสีทองมอบไปยังห้องห้องหนึ่งบนอาคาร ไฟน่อนที่มองตามก็รู้ทันทีว่าเขาหมายถึงอะไร ร่างของสาวสวยในห้องดูกำลังเศร้าหมองจากการจากไปของชายผู้เป็นที่รัก แม้จะไม่เคยบอกออกไปก็ตาม
“ อ่า.. เข้าใจแล้ว ”
“ ก็ดี ฝากดูแลเธอด้วยนั่นคือสมบัติล้ำคเพียงชิ้นเดียวของข้า อย่าให้อะไรได้ทำร้ายความงดงามนั่นเป็นอันขาด แล้วข้าจะมารับนางไปในวันที่ยุคนิรมิตรใหม่เสร็จสมบูรณ์ ”
“ พูดเยอะผิดปกตินะ แต่ก็นะรับปากอยู่แล้ว จะดูแลให้ดีเลย ”
ว่าเช่นนั้นมาเดย์ก็สบายใจขึ้นเป็นอย่างมาก เพราะเขาปกป้องเธอมาตลอดชีวิต ถ้าสักวันเธอต้องแยกจากเขาเขาก็คงต้องหาใครสักคนที่ทัดเทียมกับเขามาดูแลชั่วคราว
มายเดย์เองก็ไม่ได้มีความสุขที่ต้องจากไปแต่มันเป็นเหตุจำเป็นจริงๆ เขาเองก็นึกเสียใจที่สุดท้ายเขาก็ยังไม่ได้ยิ้มให้เธอดูอย่างที่เธอเคยขอเขาหลายๆ ครั้ง
“ ไว้เจอกันอีกครั้งจะยิ้มให้ดูนะ.. ”
วันเวลาผ่านพ้นไปร่างสวยยังคงนั่งอยู่ริมหน้าต่างที่เดิมพลางถือรูปวาดใบเล็กที่ถ่ายทอดภาพที่ดีที่สุดในความทรงจำของเธอเอาไว้ เธอมองไปยังท้องฟ้าที่ไม่มีวันเปลี่ยนเป็นยามรัติกาลของOkhema
สายลมในเมืองพัดแรงจนผิดสังเกตุ ทำให้รูปวาดที่ถอดออกจากกรอบปลิวไปตามสายลม หญิงสาวลูกขึ้นก่อนจะวิ่งตามไปเก็บรูปที่ปลิวหล่นลงไปชั้นแรกของอาคาร แต่เมื่อเงยหน้าจากพื้นก็พบว่าท้องนภาที่เคยสว่างไสว บัดนี้กลับกลายเป็นยามสนธยาเสียแล้ว
ดวงตาคู่สวยแสดงความรู้สึกตกใจก่อนจะมองกลับมายังรูปใบนั้น แต่เธอกลับรู้สึกไม่ดีอย่างบอกไม่ถูก ด้วยสัญชาตญาณบางอย่างทำให้เธอรู้สึกว่าผู้เป็นนายกลับมาแล้ว
หญิงสาวไม่สนความเปลี่ยนไปของเมืองอีกต่อไป เธอมุ่งหน้าไปตามที่ต่างๆ เพื่อหวังว่าเธอต้องพบมายเดย์มอสที่ไหนสักที่ แม้เหนื่อยเพียงใดเธอก็วิ่งอย่างสุดแรงเพื่อจะมาหาเขาให้ได้
แล้วก็เป็นอย่างที่คิดเธอพบเขาแล้วเขากำลัวสู้กับใครสักคน มันสูสีกันจนเธอประหลาดใจเพราะมายเดย์มอสนั้นแข็งแกร่งเหนือใคร น้อยคนนักจะเทียบเทียมเขาได้
แต่ข้อสงสัยถูกไขกระจ่าง สวยตาที่เปี่ยมไปด้วยความสุขที่พบบุคคลผู้เป็นที่รักต้องกลับกลายเป็นแววตาที่มีแต่ความเศร้าหมอง ภาพของมายเดย์มอสถูกบุคคลปริศนาแทงทะลุจุดอ่อนของเขามันปรากฏอยู่ที่หน้าเธอ
ร่างของมายเดย์มอสล้มลงไปนอนกับพื้น แรงเฮือกสุดท้ายของเขาเขาใช้มันเพื่อนหันมามองทางเธอพร้อมยิ้มให้บางๆ ก่อนที่เขาจะแน่นิ่งไปในที่สุด
“ ท่านมายเดย์มอส ! ! ”
“ ฟื้นสิคะ.. ปกติท่านต้องไม่ตายนี่ ! ”
“ ช่วยองค์ชายของดิฉันด้วย.. ช่วยชายที่ข้ารักด้วย.. ได้โปรด ! ”
แม้ตะโกนสุดเสียงเท่าใดร่างนั้นก็ไม่ฟื้นอีกแล้ว เขาแน่นิ่งไปแล้ว หญิงสาวร้องไห้โฮออกมาด้วยความเสียใจอย่างไร้ก้นบึ้ง จิตใจของเธอมันว่างเปล่าราวกับเทพดารากำลังมอบพรแห่งลบล้างให้กับเธอ มือเรียวลูบเปลือกตาของเจ้านายลงเบาๆ ก่อนจะประคองศีรษะของเขาไว้บนตัก
“ ท่านไม่น่าจากไป.. ควรเป็นดิฉันด้วยซ้ำ ”
“ ช่วยตื่นมาฟังดิฉันที.. ว่าดิฉันรักท่านเพียงใด ”
“ ได้โปรดท่านมายเดย์มอส ”
‘ ข้ายิ้มให้ตามสัญญาแล้วนะ y/n ’
Capture Chat Story