โรงพยาบาล
ห้องVIP
“อาเฟิงจ๊ะ วันนี้เป็นไงบ้างจ๊ะ สบายดีไหม” สวีซินเอ่ยก่อนจะลูบหัวเรืองผมสีดำที่ยังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียง ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาเลย
วันนี่ที่สวีซินเดินเข้าห้องมาเธอเห็นว่าร่างกายของหลัวเฟิงไม่มีรอยบาดแผลอะไรแล้ว แถมดูแล้วผมของหลัวเฟิงก็ดูเหมือนจะยาวขึ้นด้วย
“ถ้าอาเฟิงยังนอนอยู่แบบนี้ระวังจะไม่มีงานทำแล้วน้า”
“ฉันตื่นตั้งนานแล้วซินซิน พูดอะไรอยู่คนเดียวนะ”
จู่ๆ หลัวเฟิงก็กล่าวขึ้นก่อนจะลุกขึ้นนั่งแล้วมองไปที่สวีซินที่ทำหน้าตกใจมาก แต่เธอก็ไม่ได้สนใจอะไร ก็จะกระชากสายนํ้าเกลือที่แขนทั้งสองข้างทิ้ง ถึงเลือดจะไหลแต่ก็ไหลได้ไม่นานเพราะบาดแผลรักษาตัวเองได้อย่างรวดเร็ว
“ซินซินฉันหลับไปกี่วันงั้นเหรอ”
“เอ่อ 2อาทิตย์ จ๊ะ”
“อือ นานเหมือนกันนะเนื่ย”
“อาเฟิงจ๊ะ ช่วงนี้ฝันอีกแล้วเหรอ” สวีซินเดินมากุมมือของหลัวเฟิงไว้
“ก็คงอย่างนั้น”
“แล้วฝันถึงใครบ้างไหมจ๊ะ”
“หัวหน้าใหญ่นะ” สวีซินยิ้มขึ้นก่อนจะถามต่อ
“จำได้แล้วใช่ไหมจ๊ะ”
“อืม จำได้แล้วละ”
สวีซินไม่ได้กล่าวอะไรก่อนจะกอดหลัวเฟิงเบาๆ แล้วยื่นแหวนวงหนึ่งให้หลัวเฟิง ซึ่งหลัวเฟิงก็รับแหวนวงนั้นก่อนจะมองแล้วมองหน้าสวีซินที่ยืนยิ้มอยู่
“จำได้ไหมจ๊ะ นี่แหวนของใคร”
“หัวหน้าใหญ่”
“หื้ม? ใช่เหรอ?”
“จะให้ฉันพูดให้ได้เลยใช่ไหมเนื่ยซินซิน” หลัวเฟิงรู้ทันก่อนจะทำหน้าเซ้งๆ ใส่ สวีซินก็ได้แต่ยิ้มก่อนจะเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้หลัวเฟิงอยู่ในห้องคนเดียว
“อะไรกันครับเนื่ยยย” หลัวเฟิงยิ้มก่อนจะลุกไปที่ห้องนํ้า
ก๊อก ก๊อก
“อาเฟิงจ๊ะ อยู่ไหมจ๊ะ” เป็นเยาเหราที่เคาะประตูแล้วเดินเข้ามา เธอมองไปทั่วห้องแต่ก็ไม่มีใคร
“อยู่ในห้องนํ้ารึเปล่าค่ะ ฉันได้ยินเสียงนํ้า” เจียงฟาง
“หน้าจะเป็นแบบนั้นนะ งั้นพวกเราก็นั่งก่อนดีกว่า” เยาเหรากล่าวจบก็หยิบพวกผลไม้มาปลอกเป็นรูปต่างๆ ส่วนเจียงฟางก็ทำนํ้าชารอ
เวลาผ่านไปไม่นานักหลัวเฟิงก็เดินออกมาจากห้องนํ้าก็เห็นทั้งสามคน พวกเขาก็ทักทายกันตามปกติ แค่สิ่งที่เยาเหรากับเจียงฟางคิดก็คือ ทำไมหลัวเฟิงถึงเงียบและนิ่งเกินไป จนพวกเธอแปลกใจ
“คนอื่นๆ สบายดีไหมคะ” หลัวเฟิงเอ่ยถามทั้งสองคนด้วยรอยยิ้ม
“สบายดีจ๊ะอาเฟิง คนอื่นๆ คิดถึงหนูกันทุกคนเลยยย ไม่ยอมทำงานกันสักคน ฉันนี่ละเหนื่อยใจจริงๆ” เยาเหราตัดพ้อกับชีวิตแล้วกอดหลัวเฟิง ส่วนหลัวเฟิงเธอก็ไม่ได้ผลักหรือดันออก เธอก็กอดกลับพร้อมกับยิ้มขึ้นด้วยร้อยยิ้มที่สดใส
“หนักหน่อยนะคะพี่เยาเหราพี่เจียงฟาง”
“พวกพี่จะตายยยยย”
“แล้วหนูออกโรงยาบาลได้วันไหนเหรอค่ะ?”
“พรุ่งนี้นะจ๊ะอาเฟิง หรือจะออกวันนี้เลยดี” สวีซินยิ้มขึ้นด้วยรอยยิ้มที่ดูมีนัยยะ
“วันนี้ค่าาาาา”
“ได้เลยจ้า งั้นพวกพี่จัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ลูกสาวคนสวยด้วยนะ เดียวหนูไปจัดการก่อน” และสวีซินก็เดินออกจากห้องไปอีกครั้ง ทิ้งให้คนสวยโดนพี่สาวสองคนจับแต่งตัวใหม่
“หนูตุ๊กตาบาร์บี้แล้วลาสุดแล้วแม่” หลัวเฟิงกล่าวออกมา
“เดียวก็เสร็จแล้วจ๊ะลูกสาวววว” ทั้งสองก็ยังแต่งตัวให้ต่อ
เวลาผ่านไปทั้งสองคนก็ได้แต่งตัวให้หลัวเฟิงจนเสร็จจนได้ เล่นเอาหลัวเฟิงถึงกับเหนื่อยที่ต้องลองหลายชุดและไหนจะต้องมาฟังทั้งสองคนเถียงเรื่องชุดอีก
‘เลือกสีได้เข้าเรานะเนื่ย’ หลัวเฟิงมองชุดตัวเองที่เป็นสีดำแถบแดง เธอไม่ได้กล่าวอะไรแค่ยิ้ม ก่อนจะโดนทั้งสองคนพาออกจากโรงพยาบาลไปที่สำนักขีดสุด ส่วนทางด้านสวีซินนั้นไม่ได้มาด้วยเนื่องด้วยติดงาน (อีกแล้ว) เลยฝากตัวหลัวเฟิงไปกับทางเยาเหรากับเจียงฟาง
“อาเฟิงจ๊ะ”
“คะ?”
“หนูอยากพักก่อนดีไหมจ๊ะ เดียวพวกพี่ไปส่งที่บ้านได้นะจ๊ะ”
“ไม่ดีกว่าคะ หนูว่าจะไปที่ออสเตรเลียสักหน่อย” หลัวเฟิงยิ้มขึ้นแต่รอยยิ้มนั้น
“เอ่อ ไปทำไมเหรออาเฟิงจ้า” เจียงฟางถามไปเหงื่อตกไป
“หึหึ ไม่บอกหรอกคะ” และหลัวเฟิงก็ยิ้มร้ายขึ้นมาทันทีก่อนจะขอตัวไปก่อน ทิ้งให้เจียงฟางและเยาเหรามองหน้ากัน
“หลัวเฟิงเปลี่ยนไปปปป”
หลังจากที่หลัวเฟิงได้ไปออสเตรเลีย ก็ผ่านมา5วันแล้ว ทางสำนักขีดสุดก็มีประชุมกันเกิดขึ้นทันทีด้วยเรื่องอะไรหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้น
“ทางเทพสายฟ้าเป็นยังไงบ้าง” หัวหน้าใหญ่หงเอ่ยถามขึ้น
“ช่วงนี้ไม่ค่อยมีสัตว์ประหลาดมากเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าทำไมถึงหายเงียบมาหลายวันแล้ว” เทพสายฟ้าหรือเล่ยซินเอ่ยขึ้นพร้อมกับแสดงผลที่หน้าจอขนาดใหญ่ให้ทุกคนในห้องได้ดู
“อืมม หน้าแปลกนะเนื่ย ปกติจะต้องบุกมาที่เมืองตลอดนี่” อีสเทอร์กล่าว
“แล้วทางคุณอีสเทอร์ละค่ะ เป็นยังไงบ้าง” เยาเหราถาม
“ทางฉันก็เงียบเหมือนกัน”
“แล้วทางโรงเรียนหัวกะทิละค่ะคุณเจียงฟางเป็นยังไงกันบ้าง”
“ทางฉันให้พวกแคนเดช,วิลเลียมลองไปตรวจบริเวรรอบๆ ตัวเมืองและนอกเมืองแล้ว แต่ไม่มีสัตว์ประหลาดสักตัว ส่วนทางต่างประเทศเองก็รายงานมาว่าไม่มีสัตว์ประหลาดมาโจมตีแล้ว ซึ่งพวกเขาก็ไม่รู้ว่าเป็นฝีมือใคร” เจียงฟางแสดงผลกราฟให้ดู
พวกเขาได้ดูแผนผังกราฟที่แสดงอยู่แต่ก็ที่จะอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมอัตราการบุกโจมตีของสัตว์ประหลาดถึงลดลงอย่างรวดเร็ว
“แล้วหลัวเฟิงละ?” วลาดิเมียร์ถามขึ้น
“…….” และจู่ๆ ในห้องก็เกิดความเงียบขึ้น บางคนก็มองกัน
“นั้นสิ โทรหาเลยไหม” เหย่โซเสนอขึ้น
“งั้นโทรเลย” หัวหน้าใหญ่สั่งเยาเหรา เธอก็เชื่อมโทรศัพท์ของเธอเข้ากับจอขนาดใหญ่โทรและโทรหาหลัวเฟิง ใช้เวลาสักพักกว่าหลัวเฟิงจะรับสาย
“ฮาโหลคะพี่เยาเหรา” หลัวเฟิงตอบกลับมา
“สวัสดีค่าาาลูกสาว หนูกำลังทำอะไรอยู่เหรอจ๊ะ”
“แปปนะคะ----”
“อ้าว หายไปแล้ว”
“สัญญาณขาดเหรอ?”
“ไม่ค่ะๆ หลัวเฟิงยังอยู่นะแต่ไม่รู้ไปไหน”
“มาแล้วคะๆ พี่มีอะไรเหรอ?” หลัวเฟิงเอ่ยถามขึ้น
“หนูทำอะไรอยู่เหรอจ๊ะ” เยาเหราถามขึ้นอีกครั้ง
“อ่อ หนูกำลังซัดกับอีแร้งออสเตรเลียกับหมาป่าทะเลทรายอยู่คะ” หลัวเฟิงตอบกลับด้วยนํ้าเสียงปกติ
“ห๊ะ!!!!” ทุกคนในห้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ
“ทำไมเหรอคะ?”
“เอ่อ พี่มีเรื่องอยากถามเราหน่อยนะจ๊ะ” เยาเหราเหงื่อตกเล็กน้อย
“ได้คะ เชิญถามได้เลย”
“เราได้ไปไล้ซัดกับสัตว์ประหลาดบริเวณอื่นๆ ไหมจ๊ะ อย่างต่างประเทศนะจ๊ะเราได้ไปไหม”
“ก็หนูเองนี่แหละ”
“ว่าไงนะ!!!!!” และทุกคนก็อุทานออกมาพร้อมกันด้วยความตกใจอีกครั้ง
“หนูลูก หนูได้พักบ้างไหมลูกจ้า” เจียงฟางถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“อืมม หนูพักไป2….”
“2วัน?” เล่ยซิน
“2วินาทีคะ”
“ตายแล้วววววววววว” และทุกคนในห้องก็กริ้ดร้องด้วยความเป็นห่วง
“เอ้า ทำไมเหรอคะ?” หลัวเฟิงถาม
“หลัวเฟิงเธอพักได้แล้ว” หงกล่าวขึ้น
“ทำไมละคะหัวหน้าใหญ่”
“เธอจะบ้างานไม่ได้นะ น้องสามจ้า” เล่ยซิน
“หนูไม่ได้บ้างานนะคะ แค่ต่อยตีกับพวกสัตว์ประหลาดเองน้า” หลัวเฟิงกล่าวด้วยนํ้าเสียงที่กวนหน่อยๆ
“มันก็เหมือนกันนั้นแหละหลัวเฟิง หยุดเลยนะแล้วพักผ่อนได้แล้ว” จูสี่เอ่ยขึ้น
“ไม่เอาๆๆๆๆ” หลัวเฟิงเธอได้เปิดกล้องขึ้น
สิ่งที่ทุกคนในห้องเห็นคือร่างของหลัวเฟิงที่สวมชุดเกราะที่เป็นสีแดงผสมดำ และไหนจะทำท่าที่ดูเหมือนจะงอนแถมทำแก้มป๋องใส่กล้อง ทุกคนอดไม่ได้ที่จะไม่อมยิ้มกัน ก็นะหลัวเฟิงเธอน่ารักซะขนาดนี้ ใครไม่หลงเธอก็ช่วยไม่ได้แล้วละ
Capture Chat Story