9.Sex IV
.
.
ยูริพิดิส กล่าวว่า 'เมื่อคนดีต้องเจ็บปวด ทุกคนที่ถือว่าเป็นคนดีจะต้องทรมานไปกับเขา'
ร่างสูงและร่างบางเดินเข้าไปตามทางเดินของประตูห้องลึกลับนี้อย่างหวาดระแวง แสงไฟตามทางเดินสลัวเมื่อมันตกกระทบกับผนังห้องที่ฉาบไปด้วยสีแดงนั้น ยิ่งทำให้สถานที่แห่งนี้น่าขนลุกเป็นอย่างยิ่ง พวกเธอจึงกระชับปืนเอาไว้ในมือแน่น
ร่างสูงออกเดินนำร่างบางเล็กน้อย เพราะถ้าหากต้องเผชิญหน้ากับอะไรสักอย่างที่เป็นอันตราย เธอก็อยากจะรับกับความอันตรายนั้นก่อน เพื่อที่จะได้ลดทอนความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นกับร่างบางได้
"จับมือกันไว้นะคะ อย่างน้อยก็ทำให้เค้าได้อุ่นใจว่าคุณยังปลอดภัย"
ร่างสูงปล่อยมือข้างซ้ายจากกระบอกปืน ก่อนจะยื่นมือซ้ายไว้รอให้อีกคนจับ
"ค่ะ ขอบคุณนะคะ"
ร่างบางเอ่ยขอบคุณ หลังจากนั้นก็ยื่นมือเล็กบางไปประไปสานกันไว้กับมือเรียวของร่างสูง
"เธอกลัวหรอคะ?"
ร่างบางตัดสินใจถามออกไป เพราะหลังจากสัมผัสมือของร่างสูง เธอก็รู้สึกถึงความชื้นเหงื่อในมือของอีกคนทันที
ร่างสูงหยุดเดินเล็กน้อย เธอหันกลับมาหาร่างบางช้าๆ ก่อนจะประสานมือที่จับอยู่ให้กระชับขึ้น
"เค้าไม่ได้กลัวว่าตัวเองจะเป็นอะไรไปหรอกนะคะ แต่เค้ากลัว..เค้าดูแลคุณได้ไม่ดีค่ะ กลัวว่าคุณจะได้รับอันตราย"
ร่างสูงเอ่ยเสียงแผ่ว ตั้งแต่เริ่มเข้ามาในนี้ เธอก็รู้สึกสังหรใจไม่ดียังไงไม่รู้
"ขะขอบคุณนะคะ แต่เธอไม่ต้องเป็นห่วงเค้านะ เวลาที่เค้าอยู่กับเธอเค้าก็ไม่กลัวอะไรแล้ว"
ร่างบางรู้สึกหวั่นไหวกับแววตาของความเป็นห่วง ที่ร่างสูงแสดงออกมา
จากความเครียดและความกังวลที่จะได้เผชิญหน้ากับคนร้ายโรคจิตหลายบุคลิกนี้ ตอนนี้เธอกลับรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ ที่ตอนนี้อย่างน้อยเธอก็มีร่างสูงคอยอยู่เคียงข้างกัน
ทั้งสองกระชับมือกันแน่น ร่างสูงใช้นิ้วหัวแม่มือเกลี่ยมือบางของอีกคนเบาๆ ก่อนจะเดินไปต่อ
พวกเธอเดินจนมาพบกับประตูสีแดงบานหนึ่ง ร่างสูงจึงเข้าไปเปิดอย่างระมัดระวังช้าๆ พอเปิดเข้าไปก็พบกับห้องที่ว่างเปล่า อีกฝั่งจะมีประตูสีดำปิดไว้อยู่
บนพื้นห้องนั้นเป็นกระเบื้องลายตารางสีขาวสลับดำ คล้ายกับตารางหมากรุก ตรงช่องว่างที่พวกเขากำลังยืนอยู่มีตัวหนังสือใหญ่เขียนคำใบ้ไว้
- ข้ามไปอีกฝั่งโดยห้ามเหยียบ สี่เหลี่ยมจัตุรัสสีขาวหรือสีดำ และมีข้อแม้ว่า ข้ามมาได้เพียงแค่ 1 คน อย่าคิดจะลองดีเพราะมีเซนเซอร์ หากตรวจจับความผิดปกติได้ เตรียมลงนรกได้เลย (จำกัดน้ำหนักห้ามเกิน 100 kg) -
เมื่อพวกเธอได้อ่านเสร็จ ก็พากันครุ่นคิดอย่างหนักกับปริศนานี้ทันที..
"เค้าจะไปเอง ในกฎคือห้ามเหยียบ งั้นเค้าก็สามารถคลานเข้าไปได้"
หลังจากครุ่นคิดกันอยู่สักพัก ร่างบางก็เสนอไอเดียขึ้นมา เมื่อเธอคิดวิธีข้ามไปอีกฝั่งออก
"มันอันตรายเกินไปค่ะ เห็นชัดๆอยู่แล้วว่าเขาต้องการลดจำนวนคน เพราะถ้าเป็นผู้ชายก็สามารถเข้าไปได้แค่เพียงคนเดียว ถ้าเราทำตามเขาก็เหมือนกับเดินเข้าไปติดกับดัก"
ร่างสูงเอ่ยอธิบาย
"เค้าก็พอจะรู้นะ แต่เราไม่มีทางเลือกแล้วค่ะ เราคลานไปพร้อมกันไม่ได้"
"แต่เราไปด้วยกันได้ค่ะ"
"เค้าไม่เข้าใจ"
"คุณขี่หลังเค้าไปได้ เซนเซอร์มันจะตรวจจับแค่จำนวนก้าวค่ะ แล้วอีกอย่างเค้าก็เห็นกลลวงของคนร้ายแล้วค่ะ"
"หมายความว่าไงคะ?"
"คนร้ายระบุว่า ห้ามเหยียบสี่เหลี่ยมจัตุรัสใช่ไหมคะ แต่มันจะมีช่องหนึ่งค่ะ เป็นช่องกระเบื้องสีดำช่องที่ 4 นับจากซ้ายมือ ช่องนั้นความกว้างและความยาวมันไม่เท่ากัน"
"หมายความว่า.."
"แต่ละช่องของสีเหลี่ยมจัตุรัสใหญ่นั้น มันจะมีช่องเล็กๆอยู่ช่องละ 0.5 mm. ในช่องใหญ่หนึ่งช่องจะมีช่องเล็กทั้งหมดอยู่ 80 ช่องเล็ก ค่ะ"
"แต่แถวที่ 4 มันมีความกว้างของช่องเล็กๆอยู่ 80 ส่วนความยาวนั้น เค้านับช่องเล็กได้ 80.5 ค่ะ"
ร่างสูงอธิบาย ตอนนี้ร่างบางรู้สึกทึ่งในความสังเกตและไหวพริบของร่างสูงเป็นอย่างมาก
"ภาษาชาวบ้านแค่เรียกว่า สีเหลี่ยมผืนผ้าค่ะเธอ"
"แฮ่ๆ เค้าแค่อยากอธิบาย ยังไงก็เถอะ คุณน้ำหนักเท่าไหร่คะ?"
ร่างสูงถามอย่างสงสัย
"48.5 kg. ค่ะ"
"ส่วนเค้าหนัก 48 kg. น้ำหนักเรารวมกันอยู่ที่ 96.5 รวมกับเสื้อผ้า โทรศัพท์และรองเท้าของพวกเรา รวมเศษฝุ่นในรองเท้าด้วย อีกประมาณ 2 kg ได้ รวมเป็น 98.5 kg."
"ปืนบรรจุกระสุนเต็มแม็กของพวกเรา เฉลี่ยน้ำหนักกระบอกละประมาณ 1.2 kg."
ร่างสูงอธิบาย
"ปืนเราสองกระบอกรวมกันก็มีีน้ำหนักเฉลี่ย 2.4 kg. น้ำหนักรวมทั้งหมดตอนนี้คือ 100.9 kg"
ร่างบางเอ่ยอย่างเข้าใจในสิ่งที่ร่างสูงพยายามจะสื่อ
"ค่ะ น้ำหนักเกินอยู่ 900 กรัม. เดี๋ยวเค้าจะถอดรองเท้าออก คุณไม่ต้องถอดนะคะแค่พยายามเคาะเศษฝุ่นออกก็พอเผื่อข้างในมีเศษแก้ว"
"ในโทรศัพท์พวกเรามีข้อมูลสำคัญคงทิ้งไว้ไม่ได้ คนร้ายคนเดียว ถ้าเราเอากระสุนออกอย่างละครึ่งน้ำหนักก็น่าจะได้แล้วนะคะ"
ร่างสูงคำนวณก่อนจะอธิบาย
"แล้วถ้าข้างในมีเศษแก้วจริง เธอก็เจ็บตัวแย่สิคะ ไม่เอาหรอกเค้าเป็นห่วง"
"ก็แค่พูดเผื่อในสถานการณ์ที่มันแย่ค่ะ อาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ แต่ตอนนี้เราต้องรีบตามหาตัวคนร้ายให้เจอก่อนนะคะ เราไม่มีทางเลือกแล้วค่ะ เชื่อใจเค้านะคะ"
"งั้นก็ได้ค่ะ ถ้าข้างในมีเศษแก้วจริง เธอก็มาขี่หลังเค้าแทนนะคะ"
"555555 ได้ค่ะ แต่ตอนนี้คุณมาขี่หลังเค้าได้แล้วค่ะ"
ร่างสูงพูดพลางย่อตัวลงให้ร่างบางได้ขี่หลังอย่างสะดวก
ร่างบางหลังจากเคาะเศษฝุ่นในรองเท้าเสร็จ ก็เข้าไปขี่หลังของร่างสูงทันที
"แอบหนักเหมือนกันนะคะเนี่ย 48.5 จริงป่าว"
ร่างสูงเอ่ยแซวร่างบาง เนื่องจากเธอรู้สึกว่าร่างบางเริ่มมีสีหน้าที่เคร่งเครียดกับเกมของคนร้ายนี้
"งั้นเธอก็ปล่อยเค้าลงเลย"
ร่างบางเอ่ยอย่างงอนอีกคน แต่เธอก็พอรู้ได้ว่าร่างสูงเพียงแต่อยากจะทำให้เธอผ่อนคลายขึ้น
"เค้าล้อเล่นน่าา ไม่งอนกันนะคะ ตัวเธอเล็กแค่นี้เอง"
"เค้ารู้หรอกว่าเธอแค่ไม่อยากให้เค้าเครียด"
"555 พร้อมนะคะ"
ร่างสูงเอ่ย หัวเราะะเล็กน้อยก่อนเธอจะกระชับร่างบางที่ขี่หลังอยู่ไว้แน่น และเริ่มก้าวเข้าไปในช่องทางเดิน
~ฟิ้ววว ปั๊ก!~
"เธอระวัง!"
มีลูกดอกพุ่งมาปักที่แขนของร่างสูงแบบเต็มๆ ทำให้ร่างสูงเซเล็กน้อย ก่อนจะถอยหลังกลับเข้าไปพักในจุดเริ่มต้นอีกครั้ง
ร่างสูงรู้สึกเจ็บปวดและตึงที่แขนอย่างมาก เธอดึงลูกดอกออกมาช้าๆ ก่อนจะเจอกับเข็มเล็กๆที่ซ่อนไว้ในปลายลูกดอกทันที
"นั่นมัน.."
"หมอนี่มันคงกะจะเล่นอะไรแผลงๆแน่เลย"
"เธอคิดว่าลูกดอกอาบยาพิษไหมคะ?"
"เค้าว่าไม่ อย่างน้อยเค้าก็ยังไม่มีอาการอะไรในตอนนี้ ทำไมถึงโดนได้นะ หรือน้ำหนักเราเกินคะ เดี๋ยวเค้าจะลองเอากระสุนออกอีกสักครึ่งหนึ่งลองดูนะคะ"
"เอาของเค้าออกดีกว่าค่ะ"
"ไม่ค่ะ เอาของเค้าออกดีกว่า เพราะเค้าไม่รู้ว่าลูกดอกนี้ใส่สารอะไรเข้าไป เผื่อเค้าไม่มีสติ คุณจะได้คุมเกมนี้ได้"
"..."
"เชื่อเค้านะคะ"
"พูดขนาดนี้แล้ว เค้าก็คงแย้งอะไรเธอไม่ได้แล้วแหละ แต่เธอไหวแน่นะคะ"
"เค้าไหวค่ะ เรารีบไปต่อกันเถอะ เค้าไม่รู้ว่ายาในลูกดอกนี้จะออกฤทธิ์ตอนไหน"
หลังจากนั้นร่างสูงก็ย่อตัวให้ร่างบางขี่หลังอีกครั้ง ก่อนจะก้าวเข้าไปในช่องเดิม ครั้งนี้หลังจากก้าวไปแล้วก็ไม่มีลูกดอกหรืออะไรพุ่งออกมา
แต่ก้าวไปเกือบจะถึงประตู ร่างสูงก็รู้สึกถึงความผิดปกติในร่างกายของตัวเอง เธอเริ่มรู้สึกเบลอ และทุกอย่างที่เธอเห็นนั้นมันมีภาพซ้อนเต็มไปหมด จนทำให้เธอถึงกับเดินเซเล็กน้อย
"เธอคะ เป็นอะไรหรือเปล่าคะ เธอไหวไหม?"
ร่างบางเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง เธอรับรู้ถึงความผิดปกติของร่างสูงได้ เพราะอีกคนเริ่มตัวสั่นเทาและเดินเซ
"คะเค้ายังไหวค่ะ"
ร่างสูงพยายามดึงสติของตัวเองให้ได้มากที่สุด เธอกระชับร่างบางที่ขี่หลังเธออยู่ให้แน่น ก่อนจะรีบเดินต่อจนไปถึงประตู
เมื่อเข้ามาจนถึงประตูสีดำ ร่างสูงจึงพยายามใช้สติเฮือกสุดท้าย ในการพยายามเปิดประตูออก ข้างในเป็นห้องโล่งๆ มีโต๊ะอยู่ตัวหนึ่ง และมีเก้าอี้อยู่ 2 ตัววางอยู่ตรงข้ามกัน ในโต๊ะนั้นมีกระดานหมากรุกอยู่
ร่างสูงวางร่างบางลงช้าๆ ก่อนเธอจะเริ่มทรุดลงเล็กน้อย ร่างบางจึงรีบเข้าไปพยุงร่างสูงขึ้นทันที
"เธอ เธอไหวไหมคะ"
ร่างบางรีบเข้าไปพยุงอีกคน ที่แทบจะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่
"คะ เค้า ยะยังไหวอยู่ค่ะ แต่ก็ไม่รู้จะมีสติได้นานแค่ไหน"
"หมายความว่าไงคะ"
"คะเค้าว่า ลูกดอกนั่น ต้องมีสารบางอย่างที่ทำให้เกิดอาการประสาทหลอนแน่เลยค่ะ"
"เธอเห็นภาพซ้อนหรอคะ?"
"ชะใช่ค่ะ มันเหมือนมีภาพซ้อนๆกันตรงหน้าเต็มไปหมด"
ร่างสูงพยายามอธิบายอาการของเธอให้ร่างบางได้รับรู้อย่างยากลำบาก ตอนนี้เธอแทบจะพูดเป็นคำๆ ไม่ออกด้วยซ้ำ
"สกปรกที่สุด จอมวางแผนคนนี้มันไว้ใจไม่ได้ ชอบเล่นสกปรกซะจริงๆ เลย"
ร่างบางพยายามมองหาคนร้ายแต่ก็ไม่เจอ เธอเห็นตู้กระจกอยู่กลางห้อง ซึ่งเหมือนมีใครบางคนนอนสลบอยู่ในนั้น เธอจึงตัดสินใจพาร่างสูงไปนั่งตรงเก้าอี้ ก่อนจะเดินเข้าไปดูในตู้กระจก แต่ประตูถูกล็อคและใส่รหัสไว้เหมือนกับตู้เซฟ ทำให้เธอเปิดเข้าไปไม่ได้
** TW: คำเตือนถึงผู้อ่านทุกท่าน บทสนทนาต่อไปนี้เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ห้ามทดลองและลอกเลียนแบบเด็ดขาด ⚠️ ⛔️ **
~แกร๊ก~
เสียงไกปืนลั่นขึ้น ร่างบางรู้สึกว่ามีกระบอกโลหะจ่อหัวเธอไว้อยู่ ไม่ต้องสงสัย เพราะจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากฆาตกรฆ่าข่มขืนโรคจิตคนนี้นี่เอง
"แหม๋ๆ เข้ามาได้ถึงสองคนเลยนะครับ คิดจะโกงผมหรอ"
"ไม่ได้โกงค่ะ แค่คิดว่ามีสองหัวมันดีกว่าหัวเดียว ถ้าต้องรับมือกับจอมวางแผนที่แสนฉลาดแบบคุณผอ.เฟิร์ส(1)แล้วล่ะก็นะคะ"
"5555555 เข้าใจพูดนะครับ แต่เรียกผมว่าเอริคจอมวางแผนเถอะครับ ผมไม่ใช่ผอ.เฟิร์สอะไรนั่น ผมเก่งกว่าเขาตั้งเยอะ"
เขาหัวเราะออกมา
"ยังไงกฎก็ต้องเป็นกฎนะครับ ผมคงจะเล่นเกมหมากรุกกับพวกคุณไม่ไหวแน่"
"ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ ฉันเล่นกับคุณคนเดียวก็ได้ แต่ช่วยบอกฉันหน่อยได้ไหมคะว่า ที่ฉันเห็นอยู่ตรงหน้านี้คืออะไร?"
ร่างบางชี้มือไปตรงตู้กระจกตรงหน้า ที่มีคนนอนสลบอยู่
"อ๋อออ ก็แค่เพื่อนเก่าครับ ไม่ต้องเป็นห่วงมันยังไม่ตายตอนนี้หรอก"
"หมายความว่าไงคะ นั่นคือเจ้าหน้าที่ B หรอคะ?"
"นั่นชื่อมันหรอ ผมเรียกมันแต่ว่าไอ่คนทรยศ"
"ฉันไม่เข้าใจ"
"คนที่คอยแต่จ้องจะแย่งคู่หมั้นคุณ แถมยังไปมีอะไรกับคู่หมั้นคุณอีก คนแบบนี้คุณยังจะเรียกว่าเพื่อนอยู่หรอครับ"
"..."
"แต่ก็เอาเถอะ ยังไงมันก็จะได้ตามไปอยู่กับนังสารเลวคนนั้นอยู่แล้ว"
"คงเป็นผู้หญิงคนนั้น ที่สุสานสินะคะ"
"ก็ฉลาดดีหนิครับ เห็นทีผมคงต้องตัดคุณออกจากการแข่งขันครั้งนี้แล้วแหละ"
"หมายความว่าไงคะ"
"ผมจะแข่งกับเธอคนนั้น"
เขาชี้ไปที่ร่างสูง ที่ล้มลุกคลุกคลานพยายามเข้ามาหาเธอ
"แต่เธอโดนลูกดอกอาบยาหลอนประสาทของคุณไป เธอจะแข่งได้ยังไง แค่ให้ควบคุมสติก็ยากอยู่แล้ว!"
"นั่นมันเรื่องของเธอครับ เพราะผมเป็นผู้คุมเกมนี้ ผมจะกำหนดอะไรก็ได้"
"สกปรกที่สุด"
"ผมไม่สนใจหรอกนะ เอาล่ะทิ้งปืนลง แล้วหยิบกุญแจมือของคุณมาใส่ซะ"
เขาใช้ปืนจ่อบังคับร่างบางอยู่แบบนั้น ก่อนจะใช้ปืนฟาดไปที่หน้าร่างบาง ยามที่เธอทำยึกยักจนเลือดในปากของร่างบางเริ่มไหลซิบออกมาที่มุมปาก
"โอ๊ยยย เจ็บนะ"
ร่างบางร้องอวดโอย
"คะคุณ... คุณเป็นอะไรไหม ยะอย่าทำอะไรเธอนะไอ่เลว"
ร่างสูงพยายามดึงสติของตัวเอง ก่อนจะคลานเข้าไปหาคนร้าย จนเธอโดนเขาฟาดกระบอกปืนใส่ใบหน้าหวานด้วยอีกคน
"โอ๊ยยยยยย ซี๊ดดดด"
ร่างสูงร้องลั่นอย่างเจ็บปวด เธอล้มลงไปนอนแผ่กองบนพื้นห้องที่เย็นเฉียบ กลิ่นเลือดคลุ้งอยู่ในปาก ไม่ต้องสงสัยตอนนี้เลือดคงกลบปากเธออยู่แน่ๆ
ร่างบางร้องอย่างตกใจ ก่อนจะรีบพุ่งเข้าไปหาร่างสูงทันทีที่เห็นเห็นฆาตกรเหนี่ยวไกใส่อีกคน เธอกอดร่างสูงและพยายามเอาตัวเองบังไว้ ก่อนจะขอร้องไม่ให้เขาฆ่าอีกคน
"อย่ายิงเลยนะ ไหนว่าจะเล่นเกมไง ไม่ทำตามกฎแล้วหรอ"
"หึ ฉลาดพูดดีหนิ งั้นก็ได้ ส่วนเธอก็รีบใส่กุญแจมือให้ตัวเองสักที! แล้วอย่าคิดเล่นตุกติกล่ะ ไม่งั้นพวกเธอก็จะไม่สามารถช่วยไอ่ชั่วนั้นได้ และพวกเธอจะได้ตามมันลงไปที่นรกแน่"
"ขะเข้าใจแล้ว"
ร่างบางใส่กุญแจมืออย่างไม่เต็มใจ หลังจากใส่กุญแจมือเรียบร้อย เขาก็จับร่างบางไปมัดไว้ ก่อนจะยึดกุญแจและปืนมาไว้กับตัว และหันมาจัดการยึดปืนของร่างสูง ก่อนจะจับร่างสูงไปนั่งบนเก้าอี้ เพื่อเล่นเกมหมากรุก
"ในเกมนี้ จะมีเวลาให้แค่ 3 นาที ถ้าเธอเอาชนะผมไม่ได้ ระบบแก๊สที่ผมติดไว้ในตู้กระจกนั้นจะทำงาน ไอ่ชั่วนั่นก็จะโดนรมแก๊สควันพิษไปทันที"
"โหดร้าย แค่ 3 นาทีจะไปพออะไร"
"และถ้าเธอเอาชนะผมได้ภายใน 3 นาทีทุกคนก็จะรอด ผมจะให้รหัสเปิดประตูตู้กระจกนั้นไป แต่ถ้าเธอชนะแต่เวลาเกิน 3 นาที ก็จะมีแค่ไอ่ชั่วนั่นที่ตาย แต่ถ้าเธอแพ้ผมและเวลาก็เกิน 3 นาทีไป พวกคุณทุกคนก็จะต้องตายทั้งหมด"
"เลวที่สุด เราเสียเปรียบคุณเห็นๆ เปลี่ยนให้ฉันเล่นเถอะ ถ้าทำแบบนี้พวกเราก็ไม่ต่างกับการจะต้องตายอยู่ดีไม่ใช่หรอ?"
"คุณไม่เชื่อใจคนของคุณหรือไง?"
"ฉันเชื่อใจเธอ แต่ตอนนี้เธอไม่ได้สตินะ!"
"ผมไม่สน ผมอธิบายกฎเรียบร้อย เอาล่ะจะเริ่มจับเวลาแล้วนะ"
"คุณมันเล่นสกปรกที่สุด"
ร่างบางตะโกนอย่างเหลืออด
"ดะเดี๋ยว ชะช่วยยิงปืนใส่แขนฉันทีค่ะ ยิงเฉี่ยวๆใส่ตรงนี้นะ ได้โปรดเถอะ"
ร่างสูงเอ่ยขอร้องเสียงแผ่ว
"เจย์ เป็นบ้าไปแล้วหรือไง!"
ร่างบางตะโกนถามลั่น
"5555555 เป็นบ้าหรือไง ถึงอยากโดนยิง แต่ก็ได้ ผมจะช่วยสงเคราะห์ให้ก็ได้"
เขาหัวเราะดังลั่น
หลังจากนั้นเขาก็ยิงไปที่แขนตรงจุดที่ร่างสูงบอกทันที
~ปัง~
เสียงปืนดังลั่น กระสุนได้เฉี่ยวพุ่งทะลุแขนร่างสูงไป อย่างที่เธอได้ขอร้องเขา
ร่างสูงรู้สึกเจ็บจนชาไปหมด เธอพยายามสกัดกั้นความรู้สึกหน่วงๆในแขนไว้ ก่อนจะฉีกแขนเสื้อตัวเองออกและมัดห้ามเลือดตรงแขนที่ถูกยิงอย่างลวกๆ
"มาเริ่มกันเถอะ ฉันพร้อมแล้ว!"
ร่างสูงเอ่ยเสียงเรียบ
"..."
"นี่แก หรือแกให้ฉันยิงแก ตรงนั้นเพื่อลดพิษจากลูกดอกที่กระจายอย่างงั้นหรอ ไม่คิดว่ามันจะสายเกินไปหรอ?"
"ฉันก็ไม่รู้ว่ามันจะช่วยได้มากน้อยแค่ไหนนะคะ แต่ฉันก็พอจะเริ่มได้สติขึ้นมาบ้างแล้ว เรามารีบจบเกมนี้กันเถอะค่ะ"
ร่างสูงอธิบายเสียงเรียบ เธอพยายามข่มความเจ็บปวดที่แขนซ้ายเธอไว้อย่างยากลำบาก จากความชาในตอนแรก ตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกเจ็บปวดแปล๊บๆบ้างแล้ว
"หึ ยังไงซะ ฉันก็ชนะแกอยู่ดี เอาเถอะมาเริ่มกัน"
เขาพูดก่อนจะเริ่มกดจับเวลา ตัวเลขแสดงเวลาได้ถูกติดตั้งอยู่ตรงหน้าประตูตู้กระจกที่เจ้าหน้าที่ B นอนอยู่
ตอนนี้ร่างสูงเริ่มทำการเดินเบี้ยก่อน เพื่อเริ่มเกมเธอไม่อยากเสียเวลา หลังจากแข่งกันไปจนเวลาล่วงเลยไป 2 นาที 15 วินาทีแล้ว หมากของทั้งสองก็เริ่มร่อยหรอลง ตอนนี้ผอ.เฟิร์ส(1)มีเพียง คิง บิชอป เรือ 2 ตัว ม้า 1 ตัว เบี้ยอีก 3 ส่วนเจย์นั้น มี คิง บิชอป เรือ 1 ตัว ม้า 1 ตัว เบี้ย 2 ตัว ร่างสูงเสียเปรียบเขาเป็นอย่างมาก
ในเกมนี้หากไม่คิดให้ดีๆ เธอมีโอกาสแพ้สูงมาก เพราะเนื่องจากทั้งเวลาที่กระชั้นชิดและจากที่เธอโดนยาที่ทำให้ประสาทหลอนแล้ว จึงทำให้เธอไม่ค่อยมีสมาธิอย่างมาก
ตัวจับเวลาตอนนี้บ่งบอกเวลาที่ 2.30 นาที เหงื่อร่างสูงเริ่มผุดออกมาจากการกดดัน เธอพยายามสะบัดหัวไปมา ก่อนจะเลื่อนมือไปบีบแขนข้างที่ถูกยิงเพื่อเรียกสติ มันช่วยให้สติเธอเริ่มกลับมามากขึ้น ก่อนเธอจะเลื่อนตัว'บิชอป'ไปทางขวาในตำแหน่งรุกฆาต
"หึ เก่งดีหนิ"
เขาหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะนิ่งไป
"คุณกำลังถ่วงเวลาอยู่นะ แบบนี้มันไม่แฟร์หนิ"
เมื่อเห็นเขาพิงเก้าอี้กอดอกอย่างสบายใจ และไม่มีท่าทีจะเดินเกมต่อ จึงทำให้เจย์รู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก
"ไม่มีกฎข้อไหนห้ามหยุดคิดหนิครับ อีกอย่างผมก็กำลังใช้ความคิดอยู่"
"แต่ว่านะ..อีก 7 วิก็สามนาทีแล้วสินะครับ"
"ก็คุณไม่เดินสักที จะเลือกเดินคิงมากินตัวบิชอปฉันก็ได้แต่ไม่ทำ"
"ถ้าผมทำแบบนี้คุณก็ Checkmate ผมได้น่ะสิ ผมไม่โง่หลงกลคุณหรอกนะ"
เพื่ออรรถรสในการอ่าน เปิดเพลง SUBURBIA ของ Troye Sivan ฟังด้วยก็ได้นะคะ ไรท์ชอบมาก
~ติ๊ด ฟิ้วววว~
เสียงของนาฬิกาได้บอกว่าหมดเวลา ตอนนี้เป็นเวลา 3 นาทีพอดี แก๊สสีขาวเริ่มพ่นออกมากระจายไปทั่วตู้กระจกใส
ร่างสูงที่นั่งอยู่ในเก้าอี้เธอตกใจอย่างมาก เธอเดินโซซัดโซเซไปตู้กระจก ก่อนจะพยายามงัดประตูให้เปิดออกแต่ก็ไม่เป็นผล เธอพยายามทุบกระจกซ้ำๆ และเริ่มตะโกนด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
"คุณ B คุณ B ได้ยินฉันไหม เปิดประตูสิวะ แกกำลังจะฆ่าเพื่อนตัวเองอยู่นะ เปิดสิ!"
ร่างสูงทุบกระจกซ้ำๆ พยายามเรียกคนด้านใน เจ้าหน้าที่ B ค่อยๆลุกขึ้นมาช้าๆ ก่อนจะหันไปมองเฟิร์ส(1)เพื่อนสนิทของตัวเอง น้ำตาของเขาร่วงหล่นลงช้าๆ มือของเขาเกาะตู้กระจกแน่น เขาพำพึมว่าขอโทษซ้ำๆและบอกว่าเฟิร์สนั้นได้เข้าใจผิด พร้อมกับจ้องมองไปที่เฟิร์สอย่างรู้สึกผิด ก่อนจะเริ่มทรุดลงกองบนพื้นพร้อมก้มหน้า และกุมหน้าอกตัวเองเหมือนหายใจไม่ออก
"เปิดประตูสิวะ เขาจะตายอยู่แล้วนะ เปิดสิ! //ฮรึกก"
ร่างสูงพูดทั้งน้ำตา เพราะเธอเห็น B เริ่มดิ้นทุรนทุรายตรงหน้าเธอ เขาไอสำลักแก๊สพิษเข้าไปเต็มๆ ยิ่งได้เห็นความทรมานของเทา มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดอย่างมากที่ช่วยเขาไว้ไม่ได้
"ฉันไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องช่วยมัน"
เขากล่าวอย่างไม่ใยดี เขามอง B ด้วยแววตานิ่งเฉยไม่มีความรู้สึกผิดสักนิด ยิ่งเวลาที่ได้เห็นเพื่อนของตัวเองดิ้นอย่างทรมาน เขากลับยิ้มมีความสุขพร้อมกับหัวเราะเสียงดังลั่น
"คุณมันจิตใจอำมหิตเกินไปแล้ว ฆ่าเพื่อนตัวเองโดยไม่รู้สึกเสียใจเลยสักนิด นี่มันไม่เกินไปหน่อยหรอ ไม่คิดว่าคุณอาจจะเข้าใจอะไรผิดไปหรอ"
"ผมไม่จำเป็นต้องเสียใจกับอะไร และผมไม่ได้เข้าใจอะไรผิด มันสมควรตายแล้ว"
ร่างสูงล้มลุกคลุกคลานเข้าไปหาชายฆาตกรคนนี้อย่างไม่เกรงกลัว เธอจับเข้าไปที่คอเสื้อเขาพร้อมขยุ้มมันอย่างแรงจนแทบจะยกตัวเขาขึ้นยืนนี้ได้
"ปล่อยเขา //ฮรึก ปล่อยเขาดิวะ เกมมันจะจบแล้ว เห็นๆอยู่ยังไงฉันก็จะชนะคุณอยู่แล้วแต่คุณไม่เดินเกมต่อ ทำไมวะ บอกรหัสมาดิ ปล่อยเขาไปเถอะ //ฮรื่ออ ปล่อยเขาไปในฐานะมนุษย์คนหนึ่งก็ได้ เขาจะตายอยู่แล้วไม่เห็นรึไง!"
ร่างสูงเริ่มพูดไปพร้อมน้ำตาที่ไหลรินอย่างไม่หยุดหย่อน เธอไม่เคยเห็นใครต้องทรมานตายอยู่ตรงหน้าเลย ไหนจะใบหน้าที่รู้สึกผิดของเจ้าหน้าที่ B ก่อนจะทรุดตัวลงไปเพราะควันแก๊สนั่นอีก ตอนนี้ B เริ่มมีเลือดไหลออกทางจมูก ตา และปากของเขาเต็มไปหมด ทำให้ร่างสูงเห็นแบบนั้นยิ่งรู้สึกผิดและแทบจะเป็นบ้าไปทันที
"ก็เกมมันยังไม่จบ"
"ก็แล้วทำไมไม่เดินวะ! //ฮรึกก เดินสักทีดิ! ทำไมไม่รีบเล่นต่อล่ะ จะถ่วงเวลาไว้ทำไม! เขาจะตายอยู่แล้ว!"
เจย์ร้องลั่น พร้อมกันมือที่กำคอเสื้ออีกคนอย่างสั่นเทา เธอร้องไห้อย่างเสียสติ
"ถ้าเขาตายมันก็เป็นความผิดของคุณ! คุณจบเกมไม่ได้เอง! หึ ถ้าอยากให้ผมเล่น ผมก็จะเล่นให้ก็ได้ หึๆ"
เขาพูดขึ้นมาอย่างไม่รู้สึกอะไร ก่อนจะปัดมือเจย์ออกจากคอเสื้ออย่างแรง จนข้อมือของเจย์นั้นเริ่มแดงทันที
ร่างบางที่เห็นเจย์ร้องไห้อย่างไม่มีสติแบบนั้น ก็ทำให้เธอแทบไม่กล้าจะเอ่ยอะไรออกไปด้วยซ้ำ เธอเข้าใจความรู้สึกเจย์ดี ว่าอีกคนคงรู้สึกกดดันทั้งจากเวลาและการเอาชนะผอ.เฟิร์สอีก ไหนจะฤทธิ์ยาหลอนประสาทที่เล่นงานเจย์อีก เธออดเป็นห่วงเจย์ไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าตอนนี้จิตใจของอีกคนจะบอบช้ำขนาดไหน
"เลว คุณมันเลวที่สุด"
"แต่อย่าเลวไปมากกว่านี้เลย ตอนนี้คุณยังกลับตัวได้นะคุณเฟิร์ส(1) คุณปล่อยคุณ B ได้ กลับมาทำอะไรให้มันถูกต้องเถอะ อย่าฆ่าคนไปมากกว่านี้เลยนะคะ ตอนนี้คุณยังช่วยเขาทัน แค่ไปกดรหัสเปิดประตูกระจกนั้นออกก็เท่านั้น"
ในที่สุดร่างบางก็เอ่ยออกมา
"ผมไม่ใช่เฟิร์ส และผมจะเล่นเกม ว่าไงจะเล่นต่อให้จบหรือจะยอมแพ้ไปล่ะ"
เขาหันไปมองเจย์ ก่อนจะพูดอย่างไม่สนใจโรส
"//ฮรึก ตาคุณแล้ว รีบเดินสิ!"
"ใจเย็นสิ ให้เวลาผมคิดหน่อย"
"คุณเลิกถ่วงเวลาสักที //ฮรึก เดินเกมดิวะ เดิน!"
ร่างสูงตะโกนใส่หน้าเขาอย่างไม่เกรงกลัว ตอนนี้เธอแทบไม่รู้สึกกลัวอะไรแล้ว แม้เขาจะเอาปืนมาจ่อที่หัวหรือยิงเธอไป เธอก็ไม่รู้สึกกลัวอะไรเลย ตอนนี้เธอเพียงอยากหยุดเกมบ้าๆที่ฆ่าชีวิตคนลง
หลังจากเห็นปฏิกิริยาของเจย์ที่ไม่เกรงกลัวอะไร แถมท่าทางที่พร้อมจะฆ่าเขาได้ทุกเมื่อแล้ว เขาจึงเลิกถ่วงเวลาและเริ่มเกมทันที แต่ไม่ว่าเขาจะเดินไปทางไหนก็โดนร่างสูงไล่ต้อน จนสุดท้ายเขาเองก็จนมุม
" Checkmate! บอกรหัสมา ฉันจะไปเปิดประตู! บอกมาดิ ฉันชนะแกแล้ว บอกมา!"
ร่างสูงพุ่งเข้าไปคว้าคอเสื้อของเขาทันที
"040184"
หลังจากได้รหัสแล้ว เจย์ก็วิ่งล้มลุกคลุกคลานเข้าไปเปิดประตูตู้กระจกทันที เธอกดรหัสด้วยมือสั่นเทา
หลังจากประตูได้เปิดออกก็มีกลิ่นควันพุ่งกระจายออกมา เธอจะรีบกลั้นหายใจไว้ และรีบวิ่งไปดึงตัวเจ้าหน้าที่ B ออกมาจากในตู้กระจก
"คุณ B เจ้าหน้าที่ B คุณได้ยินฉันไหม คุณ B"
ร่างสูงตะโกนเรียก B เสียงดังลั่น แต่ไม่มีการตอบกลับใดๆ
เจย์เลื่อนมือที่สั่นเทาไปเช็คชีพจรของอีกคน ก็พบว่าชีพจรของเขาหยุดเต้นไปแล้ว เธอรู้สึกผิดอย่างมากที่ช่วยเขาไว้ไม่ทัน จนตอนนี้ควบคุมตัวเองไม่ได้อีกแล้ว เธอถึงกับร้องไห้ออกมาอย่างหนัก
"คุณ B //ฮรึกก ฟื้นขึ้นมาสิ อย่าพึ่งตายนะคะ"
เจย์วางเขาราบกับพื้น ก่อนจะทำการ CPR เจ้าหน้าที่ B ทันที
"1และ2และ3และ4 ... 30 คุณ B ฟื้นสิคะเรียกรถฉุกเฉินที ใครก็ได้ //ฮรึก คุณ B ฟื้นสิ! 1และ2และ3และ4 .."
เจย์ทำการ CPR ไปร้องไห้ไป เป็นเวลาเกือบ 2 นาทีแล้ว แต่ก็ไม่มีการตอบสนองใดๆ
~แกร๊ก~
เสียงเหนี่ยวไกปืนลั่นออกมาจากทางด้านหลังเจย์
"เจย์ระวังค่ะ"
ร่างบางตะโกนลั่นอย่างเป็นห่วง
"55555555 พวกแกมันโง่ สมควรตายกันทั้งหมดจริงๆ"
เฟิร์สเราะอย่างบ้าคลั่ง
~ปัง~
เสียงปืนดังลั่น กระสุนสีทองเหลืองจะพุ่งออกไปยังทิศทางของคนที่ยิงบังคับให้ไป
"เจย์!"
ร่างบางร้องลั่น
ร่างของผอ.เฟิร์สได้ทรุดลงพื้นอย่างแรง
เจย์ที่ได้แอบหยิบเอาปืนของเจ้าหน้าที่ B ที่หล่นจากที่เก็บปืนในสะโพกนั้น เธอก็ได้ยิงไปที่ ผอ.เฟิร์สทันที ก่อนที่เขาจะทันได้ลั่นปืนยิงมาที่เธอ หลังจากยิงเสร็จเธอมีอาการมือสั่นกับสิ่งที่ได้ทำลงไปอย่างมาก เธอไม่เคยยิงคนจริงๆเลยสักครั้ง มากที่สุดก็แค่ซ้อมยิงเป้า
ร่างสูงรู้สึกหูอื้อไปหมด เธอไม่ได้ยินเสียงร่างบางที่ตะโกนเรียกเธอด้วยซ้ำ เธอรู้สึกช็อคอย่างมาก ก่อนจะได้สติวิ่งล้มลุกคลุกคานไปหยิบปืนจากผอ.เฟิร์ส และหยิบกุญแจเพื่อเอาไปไขกุญแจมือให้ร่างบาง
"เขา..เขาตายแล้วค่ะ"
หลังจากที่เจย์แก้มัดและไขกุญแจมือให้เธอเสร็จ ร่างบางก็เข้ามาเช็คอาการของ ผอ.เฟิร์สทันก็ ก็พบว่าเขาเสียชีวิตไปเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากเจย์ได้ยิงเข้าไปโดนที่หัวใจเขาเต็มๆ
เจย์ยืนนิ่ง เธอรู้สึกเจ็บปวดและชาไปทั้งตัว ก่อนจะทรุดลงไปกับพื้น เธอร้องไห้เสียใจอย่างมาก เธอแทบจะทำอะไรไม่ถูก เธอรู้สึกผิดที่ช่วย B ไม่ทัน แถมเธอยังต้องฆ่าคนอีก ถึงจะเพื่อช่วยชีวิตร่างบางและตัวเธอเองก็เถอะ แต่มันก็ยังหนักเกินไปสำหรับเธออยู่ดี เธอรู้สึกผิดเหลือเกิน
"เธอคะ ไม่เป็นไรแล้วนะ"
ร่างบางวิ่งเข้าไปโอบกอดร่างสูงที่ทรุดตัวร้องไห้กับพื้นไว้ ก่อนเธอจะดึงร่างสูงกอดไว้แนบอกเธอ พร้อมกับลูบหัวอีกคนเบาๆอย่างปลอบโยน
"//ฮรึกก คะเค้าช่วยคุณ B ไม่ทัน ถ้าเค้าเก่งเหมือนคุณ //ฮรึก เค้าคงเล่นเกมหมากรุกชนะไปตั้งแต่นาทีแรกแล้วด้วยซ้ำ เค้ามันไม่ได้เรื่อง //ฮื่อออ"
ร่างสูงร้องไห้คราญครางพร้อมกอดร่างบางแน่น
"เค้าฆ่าคนไปถึง 2 คน วันนี้เค้าได้ทำให้คนตายไปถึง 2 คน เค้ามันก็ไม่ต่างจากฆาตกร.. //ฮรึกกก เค้ามัน.."
"เธอคะ ไม่เป็นไรแล้วนะคะ ร้องออกมาเลยค่ะ แต่ไม่ต้องโทษตัวเองนะคะ ถ้าเธอไม่ยิงเขา เราทั้งคู่ก็ตายนะคะ ส่วนเรื่องเจ้าหน้าที่ B ผอ.เฟิร์สก็ตั้งใจถ่วงเวลาตั้งหลายครั้ง เขาตั้งใจที่จะฆ่าคุณ B ตั้งแต่แรกอยู่แล้วค่ะ"
"มันไม่ใช่ความผิดของเธอเลยนะคะ แถมเธอโดนยาหลอนประสาทด้วย อย่าโทษตัวเองเลยนะคะคนดี"
ร่างบางเข้าใจอีกคนดี เวลาที่ช่วยชีวิตใครสักคน หรือต้องเห็นใครสักคนตายต่อหน้านั้น มันรู้สึกเจ็บปวดขนาดไหน ยิ่งนี่เป็นครั้งแรกของร่างสูงแล้วด้วย ร่างสูงต้องเจ็บปวดกับเห็นการณ์นี้แน่นๆอยู่แล้ว
"//ฮรึกกก ไม่.. มะมันเป็นความผิดเค้า มะมันเป็นความผิดเค้าคนเดียว เพราะเจย์.."
ร่างสูงสูงร้องไห้สะอื้นอย่างเจ็บปวด เธอไม่เคยต้องเธอคนตายต่อหน้าแล้วไม่สามารถช่วยได้แบบนี้เลย เขาอยู่ต่อหน้าให้เธอช่วยแล้วแท้ๆ แต่เธอกลับทำอะไรไม่ได้
เธอสมควรจะทำงานแบบนี้จริงๆแล้วหรอ แค่ช่วยให้ร่างบางปลอดภัยยังทำไม่ได้ แล้วยังปล่อยให้เหยื่อต้องตายอีก เธอช่วยผู้บริสุทธิ์ไว้ไม่ได้เลย เธอเก่งพอที่จะทำหน้าที่นี้หรือยังนะ
.
.
#Whoisthekiller?
ดราม่าหน่อย พอหอมปากหอมคอนะคะ
พึ่งหัดแต่ง หากผิดพลาดประการใดโปรดให้อภัยด้วย
แล้วเจอกันใหม่น๊าา
Capture Chat Story
“มาเป็นคนแรกที่โดเนทให้กำลังใจนักเขียนกันเถอะ”

โดเนทสูงสุดของเรื่อง Who is the killer? | CHAELISA | ||||
---|---|---|---|---|
![]() 600.00 ![]() | ![]() 30.00 ![]() | ![]() 20.00 ![]() | ![]() 20.00 ![]() | ![]() 10.00 ![]() |
โดเนทสูงสุดของ ตอนย่อยนี้ | ||||
---|---|---|---|---|
![]() มาโดเนทกัน | ![]() มาโดเนทกัน | ![]() มาโดเนทกัน | ![]() มาโดเนทกัน | ![]() มาโดเนทกัน |