don't say meow!
enjoy reading
หากคุณมีนิสัยที่ใจร้อน เอาแต่ใจ และขี้รำคาญมาก ๆ เราคือเพื่อนกันค่ะ เหมียวนั้นรู้ตัวดีว่าตนเป็นคนขี้รำคาญมาก มักจะไม่ชอบการเป็นจุดสนใจหรือการเข้าสังคมใหญ่ ๆ เพราะขี้เกียจที่จะปรับตัวให้เข้ากันคนหมู่มาก แต่การปั้นหน้ายิ้มของเธอทำให้คนหลายคนคิดว่าเธอนั้นไม่ได้เป็นอะไร ลักษณะนิสัยแบบนี้มักจะเป็นกับคนที่เธอสนิทหรือสบายใจที่จะเป็นตัวของตัวเอง แต่ถามว่ามันเป็นนิสัยที่ดีไหม เธอเองก็ยอมรับว่ามันไม่ดีเอาซะเลย ได้แต่ค่อย ๆ พยายามปรับเปลี่ยนนิสัยของตัวเอง
แต่มันไม่ง่ายขนาดนั้นเนี่ยสิ
และคนที่ได้เห็นนิสัยที่แท้จริงของเธอนั้นก็คือสายรหัสปีสามอย่างเจหรือที่เธอมักจะเรียกเจเจเพราะเอาคืนที่พี่ปีสามคนนั้นเรียกเธอว่าเมี๊ยว ๆ มันไม่ได้น่ารักแบบที่เขาบอกเลย หากมีคนมาล้อชื่อของคุณ คุณจะชอบเหรอ ซึ่งเธอก็ไม่ชอบแต่การเรียกกันแบบนั้นกลายเป็นความเคยชินไปเสียแล้ว
และหากพูดถึงบุคคลคนนั้น เขามักจะคอยกวนประสาทและกวนใจเธออยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นสีหน้าท่าทีที่กวนประสาทใส่เธอ รอยยิ้มที่ดูก็รู้ว่าพอใจที่ได้แกล้งเธอมากขนาดไหน
แต่กับคนอื่นดันปั้นหน้ายิ้มหวานซะงั้น
ตอนที่พี่เจทักมาบอกกันว่าจะจีบ ถามว่าตกใจไหมก็คงตกใจมาก เพราะถึงจะรู้มาว่าโลกใบนี้ไม่ได้มีแค่เพศชายและเพศหญิง เพื่อนที่เป็น lqbt ก็เยอะพอสมควร ซึ่งเหมียวเองก็ไม่ได้มีท่าทีที่จะรังเกียจเพื่อน เพราะส่วนตัวแอบเปิดใจที่จะคบเพื่อนหลากหลาย แค่นิสัยเราเข้ากันได้ก็เพียงพอ
หากแต่พอเป็นด้านความรัก ซึ่งเธอเองก็ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนไม่ว่าจะเป็นคนคุยหรือแฟนก็ตาม ยิ่งเจเจที่เป็นผู้หญิงด้วยกันเองอีกนั้นเธอเองก็ไม่มั่นใจว่ามันจะเกิดเป็นความรักได้ และนี่ก็ปี 2017 โลกก็ยังไม่ได้เปิดกว้างที่จะยอมรับคนรักเพศเดียวกันขนาดนั้นอีก ไหนจะครอบครัวเธอ ไหนจะครอบครัวเจเจ มันทำให้เธอคิดไม่ตกมาตลอดว่าเธอจะสามารถรักกับรุ่นพี่ปีสามที่บอกว่าจะจีบเธอได้หรือไม่
แต่เธอเองก็ไม่ได้ปิดกั้นรุ่นพี่คนนั้น ใจนึงก็อยากลองหากได้มีโอกาสเข้ามา ถ้าหากจะมีความรักในช่วงวัยนี้ เธอเองยินดีที่จะได้ลองดู ไม่ว่าจะเป็นการไปไหนมาไหนกันสองคน การคุยแชทเรื่องไร้สาระจนข้ามคืน หรือบางทีก็ได้รับความช่วยเหลือจากคนโตกว่าในเรื่องเรียนหรือเรื่องชีวิตประจำวันทั่วไป
ซึ่งถามว่าที่ผ่านมามันดีไหม เธอเองก็พูดได้เลยว่ารุ่นพี่ของเธอนั้นดูแลเอาใจใส่เธอดีมาก เจเจมักจะเป็นคนใจดีแบบที่เขาเคยบอกเธอไว้ คนข้างกายของเขามักได้รับการเอาใจใส่จากรุ่นพี่คนนี้ดีมาก เป็นเพื่อน พี่น้องที่ดีคนนึงเลยแหละ แต่ถ้าถามว่าเป็นคนรักที่ดีให้เธอได้ไหมเธอเองก็ไม่แน่ใจ เพราะการกระทำเหล่านี้เธอไม่ได้รับเพียงคนเดียวนี่สิ
ไหนจะรุ่นพี่ต่างคณะที่ออกตัวแรงว่าชอบเจเจอีก ถึงเจเจจะบอกกับเธอว่าเขานั้นไม่อยากใจดีกับพี่มิ้นเพราะไม่อยากให้ความหวัง แต่เขาไม่รู้ตัวเลยว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังใช้ความใจดีของเจเจคอยเข้าหาอยู่เสมอ ถ้าจะให้ยกตัวอย่างก็คือพี่ปีสามต่างคณะคนนั้นมักจะขอติดรถไปไหนมาไหนด้วยเสมอ หรือบางทีก็มักโทรมาดึกดื่นให้ไปรับที่ร้านเหล้าทั้งที่เธอนั้นนอนอยู่ข้างกายเขาด้วยซ้ำ พอถามก็บอกว่าเป็นห่วงเพื่อนผู้หญิงไม่อยากให้กลับคนเดียว
เป็นใครจะไม่รำคาญบ้าง
และความน่ารำคาญต่อมาก็คือเธอนั้นมักจะไม่ชอบการกระทำของเจเจเวลาที่เธออยู่กับเดือนมหาลัย เจเจมักจะทักมาประชดประชันใส่กัน บ้างก็ปั้นหน้านิ่งเวลาที่เธอไปไหนมาไหนกับเดือนแพทย์คนนี้ ถามว่ารู้ไหมว่าเขามาจีบ เธอเองก็ไม่ได้โง่ที่จะดูไม่ออก แต่ในเมื่อมีโอกาสเข้ามาให้เธอได้ลองศึกษาดูใจ เธอเองก็ยินดีที่จะลองไม่ว่าจะเป็นเพศชายหรือเพศเดียวกัน
และถ้าถามว่าเธอนั้นรำคาญผู้ชายข้างกายที่พยายามคะยั้นคะยอเธอให้ไปกินร้านขนมปังปิ้งที่รุ่นพี่คนสนิทของเธอเพิ่งแนะนำมาไหม เธอเองก็รำคาญเหมือนกัน แต่ไม่รู้ทำไมสมองถึงคิดที่จะยอมและไปด้วยเพื่อปัดรำคาญ แต่ถ้าพอเป็นพี่คนนั้นน้อยใจ เธอยินดีที่จะเอาตัวเองเข้าไปง้อหรือทำให้เขาหายน้อยใจเธอได้ แต่กับเดือนแพทย์คนนี้นั้น เธออยากให้หมดวันเร็ว ๆ เสียมากกว่า
แม้เพื่อนสนิทจะบอกว่าความรู้สึกของเธอนั้นชัดแล้วว่าสบายใจที่จะอยู่กับคนไหนมากกว่า เธอเองก็ตัดสินใจที่จะตอบเดือนแพทย์คนนั้นที่ทักมาขอคำตอบจากเธอว่า ตัวเธอไม่ได้ชอบเขาเลย แต่ที่ผ่านมาก็ขอบคุณมากที่คอยพาไปไหนมาไหนอยู่เสมอ ซึ่งก็จบลงด้วยดี
แต่แล้วพอเธอมั่นใจในความรู้สึกของตัวเอง ท่าทีของรุ่นพี่ก็เปลี่ยนไป จากที่เขาจะคอยทักทายกันก็ทำเป็นมองไม่เห็นเธอ ไหนจะที่อ้างว่ายุ่งทั้งที่เธอก็เห็นว่าเขานั้นไม่ได้ทำอะไร
อย่างวันนี้ที่เธอเห็นกลุ่มเพื่อนของเขานั่งเล่นกันอยู่ เธอเลยเดินเข้าไปทักทาย แต่คงจะช้ากว่าพี่คณะนิติคนนั้นที่เดินตัดหน้าเธอเข้าไปทักลูกหมาที่กำลังฟุบหลับเพราะเพิ่งกลับมาจากงานตอนเช้า
"เจคะ เจ ทำไมมานอนแบบนี้ล่ะ" มือเรียวนั้นแตะที่แขนของคนกำลังพักผ่อนให้ตื่น แต่กลับกันกับเธอที่แค่เข้าไปยืนข้างกายหลังจากทักทายรุ่นพี่คนอื่นในโต๊ะเรียบร้อยแล้ว
"อืม อ้าวมิ้น มีอะไรเหรอ"
"เมื่อคืนนอนไม่พอเหรอ"
ไม่ได้นอนต่างหาก ยัยคนนี้รู้เรื่องอะไรบ้าง
"ไม่ได้นอนเลย เจทำงานมา"
ต่างจากที่เธอคิดในใจตรงไหน หึ
"อ้าว แล้วนัดเราล่ะ ไหนเจบอกจะพาเค้าไปถ่ายรูปที่สวนข้างมอ"
"ไปได้นะ แต่เจลืมเปลี่ยนฟิล์มมาอะ"
ยืนฟังเสียงสนทนาจนเธอกลอกตาให้กับการกระทำของรุ่นพี่ต่างคณะที่ไม่ยอมปล่อยให้คนที่ใต้ตาดำข้างเธอได้พักผ่อนต่อเสียที วางกระเป๋าลงบนโต๊ะด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว แต่แล้วกระเป๋าของเธอนั้นดันไปชนกับกล้องฟิล์มตัวโปรดที่เจเจชอบยกขึ้นมาถ่ายเธอเวลาอยู่กันตามลำพัง มือเรียวรีบยื่นไปคว้าหลังจากเห็นว่ากล้องฟิล์มกำลังจะตกจากโต๊ะ แต่ก็คงจะยื่นมือออกไปช้าเกิน
เพล้ง! เสียงที่ได้ยินคงไม่พ้นกับเลนส์ราคาสูงแตก เรียกความสนใจของคนทั้งโต๊ะหันมามองเธอด้วยท่าทีที่กำลังช็อกกับการกระทำชั่วครู่ สบตากับเจ้าของกล้องด้วยใบหน้ารู้สึกผิด แต่คนตรงหน้าทำเพียงตีหน้านิ่งแล้วลุกไปเก็บกล้องขึ้นมาดูอาการ ก่อนจะบอกลาเพื่อนร่วมโต๊ะแล้วเดินหายไปพร้อมกับรุ่นพี่คณะนิติที่ถือวิสาสะยกมือคล้องแขนเจเจแล้วหันมายิ้มใส่เธอ
ความน่ารำคาญต่อมาคือเธอกำลังยืนรอคนที่เพิ่งไปตีแบดกับเธอมาเมื่อวันก่อนที่หน้าคอนเสิร์ต ในเย็นวันศุกร์ที่รถแสนจะติด แถมยังไกลจากหอพักของเธออีก แต่เธอก็ยังมาแม้จะไม่ชอบสถานที่ที่มีคนเยอะขนาดนี้ก็ตาม ยกบัตรในมือขึ้นมาดูเวลาคอนเสิร์ตเริ่มสลับกับนาฬิกาที่อีกไม่กี่นาทีคอนเสิร์ตวงโปรดของเจเจจะเริ่มขึ้น
ใช่ ฟังไม่ผิดหรอก มันเป็นวงโปรดของรุ่นพี่คนสนิทของเธอมากกว่า และที่เธอมาเพราะก็ได้ฟังเพลงของวงนี้บ่อย ๆ เพราะตาคนนั้นมักจะส่งเพลงมาให้อยู่ทุกวันแล้วบอกว่าเป็นการส่งเพลงจีบ
ซึ่งมันก็น่ารักดี
แต่เมื่อได้รับข้อความว่าแฟนเพลงคนนั้นลืมสนิทเธอก็ถอดใจที่เข้าไปในคอนเสิร์ตตามลำพัง เพราะเธอไม่ได้ชอบศิลปินอะไรมากขนาดนั้น เพียงแต่ตนชอบเวลารุ่นพี่คนนั้นยิ้มมีความสุขตอนดูคอนเสิร์ตแบบย้อนหลังในอินเทอร์เน็ตก็แค่นั้นเอง ปากได้รูปมักจะพูดกรอกหูเธอเสมอว่าชอบวงนี้มากแค่ไหน ถ้ามีโอกาสอยากไปฟังวงนี้เล่นสดด้วยหูของตัวเอง หนำซ้ำยังหันมาทำหน้าอ้อนชวนเธอให้ไปด้วยกันอีก
ใครจะไม่ใจอ่อนบ้าง
แต่วันนี้กลับลืมเสียเอง
ความน้อยใจพรั่งพรูเข้ามาไม่หยุดจนเกิดความร้อนผ่าวที่บริเวณรอบดวงตา ไหนจะการกระทำที่ช่วงนี้เริ่มตีตัวออกห่างจากตนอีก ไม่ชอบกันแล้วทำไมไม่บอก เธอจะได้ไม่พาตัวเองมาอยู่ใกล้เขาแบบนี้ ไม่พาตัวไปในที่ที่เธอนั้นไม่ชอบเพราะจำนวนผู้คนเพียงเพราะเขาเอ่ยปากว่าอยากมาคอนเสิร์ตนี้กับเธอ
ความน่ารำคาญใจเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อพี่รหัสทักมาบอกว่ามีลูกหมากำลังนั่งหงอยอยู่ข้างล่างหอเธอ เธอจึงไหว้วานให้พี่เอมหิ้วลูกหมาตัวนั้นขึ้นมาปล่อยหน้าห้องของเธอให้หน่อย และเพียงแค่ลูกหมาตัวนั้นเปิดประตูแล้วเดินเข้ามาหาเธอที่กำลังนั่งมองอยู่บนเตียง ใบหน้าที่มองมาคล้ายกับลูกหมาที่กำลังหูลู่อยู่ไม่ผิด
เฮ้อ ใจอ่อนให้ตานี่อีกแล้ว
"ขอโทษค่ะ" คนตรงหน้าเอ่ยปากบอกเธอเป็นคำแรกพร้อมกับทิ้งตัวลงคุกเข่าข้างเตียง มือเรียวเย็นส่งมากุมที่ขาของเธอพร้อมกับมุดหน้างุดกับเตียง
"ทำอะไรของเจเจเนี่ย ลุกขึ้นมานั่งบนเตียงดี ๆ "
"เหมียว พี่เจขอโทษนะคะ" ฝ่ามือเปลี่ยนมาจับที่แขนของเธอแน่น พร้อมกับใบหน้าที่ซบลงบนไหล่ของเธอ
"ไม่เป็นไรค่ะ"
"ครั้งหน้าไปด้วยกันใหม่นะ"
"พี่จะลืมอีกไหมอะคะ"
"ไม่ลืมแล้วค่ะ พี่จะไม่ลืมแล้ว"
"พี่จะไม่ตัดใจจากเหมียวแล้ว"
เพียงประโยคต่อมาที่อีกคนพูดทำใจของเธอชาวูบไปชั่วขณะ ที่เขาเปลี่ยนไปเพราะกำลังตัดใจจากเธองั้นเหรอ เธอเกือบจะเสียคนตรงหน้าไปแล้วงั้นเหรอ ความคิดมากมายประเดประดังเข้ามาในหัวไม่หยุดจนลืมโฟกัสคนตรงหน้า ก่อนจะได้สติกลับคืนมาเมื่อมือเย็นสัมผัสลงที่แก้มของเธอ
"ต่อให้จะศูนย์เปอร์เซ็นต์ก็ไม่เป็นไรค่ะ พี่เจรอได้ เหมียวให้พี่เจรอได้ไหม พี่เจขอรอจนกว่าเหมียวจะมีใครสักคนจริง ๆ ต่อให้คนนั้นไม่ใช่พี่เจก็ไม่เป็นไร แล้วตอนนั้นพี่เจค่อยจัดการตัวเอง แต่ถ้าตอนนี้เหมียวยังไม่มีใคร รับพี่เจไปพิจารณาอีกครั้งนะคะ จะไม่หายไปไหน จะไม่ทำตัวแบบนี้อีกแล้ว นะคะ"
คำพูดยาวเหยียดราวกับกำลังสารภาพรักกับเธออีกหน เงยหน้ามองคนตรงหน้าที่กำลังยิ้มหวานให้เธอแม้แววตาจะเศร้า มือเรียวยกขึ้นไปกุมมือของอีกคนที่กำลังแนบกับแก้มของเธออยู่
"มันไม่ใช่ศูนย์เปอร์เซ็นต์แล้ว ขอโทษที่ให้รอนานนะคะ"
"จริงเหรอ"
"ค่ะ เหมียวว่าเหมียวก็เริ่มชอบพี่แล้ว"
เสียงร้องตะโกนดีใจราวกับเธอยอมเป็นแฟนด้วยนั้นดังลั่นจนเกรงว่าจะไปรบกวนเพื่อนข้างห้อง ไหนจะโยกตัวไปมาบนเตียงจนเธอเวียนหัว
"โอ๊ยเจเจ ไม่ได้บอกว่าจะเป็นแฟนด้วยสักหน่อย เหมียวกับพี่มีไรที่ต้องปรับเข้าหากันอีกเยอะ"
"ค่ะ ให้ปรับแค่ไหนก็ยอม แค่เหมียวชอบพี่เจ พี่เจก็มีความสุขที่สุดแล้ว"
เฮ้อ ใครมันสอนให้ตานี่พูดจาอะไรแบบนี้เนี่ย แล้วไหนจะแววตาเป็นประกายราวกับลูกหมาที่เจ้าของกำลังจะพาไปเที่ยวเล่นแบบนั้นอีก ไม่มีใครบอกหรือไงว่ามันน่ารักอะ
แพ้ให้ตานี่อีกแล้วเรา
ทนายฝั่งน้องเหมียวมาแล้วคับพ้มม ใครจะตีลูกนี่ไปคุยกันในศาลค่ะ เราไม่ยอม5555555555555 ในที่สุดยัยเหมียวของเราก็เลิกซึนสักที อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วนะคะ ใจจริงไม่คิดว่าจะเขียนยืดเยื้อขนาดนี้ เพราะดันสร้างปมไม่รู้ตัวเลยต้องมานั่งแก้ทีหลัง ;-; ตอนแรกวางไว้แค่ 10-15 ตอนคงจบ แค่อยากย้อนความมาเฉลยชื่อยัยแมวกับชื่อเรื่องแค่นั้นเอง แต่ดันสร้างปมอะไรไม่รู้เต็มไปหมดเลย แหะ แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะดราม่าอะไรนะคะทุกคน ปัจจุบันยัยสองคนนั้นเขารักกันดีค่ะ นี่แค่อดีต มีล้มลุกคลุกคลานบ้างกว่าจะเกิดเป็นความสัมพันธ์คู่รักคู่หนึ่งขึ้นมา หลังจากนี้เตรียมรับความหวาน เช็คน้ำตาลในเลือดกันด้วยนะค้าบบ รักนะพวกทาสแมว🫶🏻
Capture Chat Story
“มาเป็นคนแรกที่โดเนทให้กำลังใจนักเขียนกันเถอะ”

โดเนทสูงสุดของเรื่อง don’t say meow! | winrina | ||||
---|---|---|---|---|
![]() 170.00 ![]() | ![]() 30.00 ![]() | ![]() 20.00 ![]() | ![]() 20.00 ![]() |
โดเนทสูงสุดของ ตอนย่อยนี้ | ||||
---|---|---|---|---|
![]() มาโดเนทกัน | ![]() มาโดเนทกัน | ![]() มาโดเนทกัน | ![]() มาโดเนทกัน | ![]() มาโดเนทกัน |